เว็บบล็อกนี้จัดทำขึ้นเพื่อใช้ในการเรียนวิชาการเมืองและการปกครอง มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง

วันพุธที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2551

เปิดโผ "ครม.สมชาย 1" ล่าสุด



นายกรัฐมนตรี
นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์
รองนายกรัฐมนตรี
พล.อ.ชวลิต ยงยงยุทธ รองนายก ฯ ตำแหน่งเดียว
พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ ควบ รมว.มหาดไทย
พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายก ฯ ตำแหน่งเดียว
นาย โอฬาร ไชยประวัติ รองนายก ฯ ตำแหน่งเดียว
นาย สมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ***นาย มิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ ***
รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
นายสุขุมพงษ์ โง่นคำ ดูงานฝ่ายกฎหมาย (แทนนายชูศักดิ์ ศิรินิล)

กระทรวงมหาดไทย
พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ รมว. (ตำแหน่งเดิม)
นายสุพล ฟองงาม รมช. (ตำแหน่งเดิม) หรือ นายปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข
นายประสงค์ โฆษิตานนท์ รมช.

กระทรวงการคลัง
นายสุชาติ ธาดาธำรงเวช รมว. (อดีต รมช.คลัง)
นายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ รมช. (ตำแหน่งเดิม)
ร.ต.หญิง ระนองรักษ์ สุวรรณฉวี รมช. (ตำแหน่งเดิม) ภริยาว่าที่ ร.ต.ไพโรจน์ สุวรรณฉวี

กระทรวงศึกษาธิการ
นายศรีเมือง เจริญศิริ รมว. ส.ส.สัดส่วน พปช. (คนใกล้ชิดคุณหญิง พจมาน ชินวัตร)ว่าที่ร้อยตรี พงษ์พันธุ์ สุนทรชัย รมช. ***

กระทรวงกลาโหม
นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ รมว.
กระทรวงการต่างประเทศ
นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ รมว. (อดีตรมว.ยุติธรรม)

กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ (ตำแหน่งเดิม)

กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
นายอุดมเดช รัตนเสถียร ส.ส.ปทุมธานี คนใกล้ชิดคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์

กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล รมว. (ตำแหน่งเดิม)
นายสมพัฒน์ แก้วพิจิตร รมช.
นายธีระชัย แสนแก้ว รมช.

กระทรวงคมนาคม
นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมว. (ตำแหน่งเดิม)
นายโสภณ ซารัมย์ รมช.
นายวราวุธ ศิลปอาชา รมช. (ลูกชาย บรรหาร ศิลปอาชา)

กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
นางอนงค์วรรณ เทพสุทิน (ตำแหน่งเดิม)

กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที)
นายมั่น พัธโนทัย (ตำแหน่งเดิม)

กระทรวงพลังงาน
นพ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล รมว. ส.ส. นครราชสีมา พรรครวมใจไทยชาติพัฒนา (แทนพล.ท.หญิง พูนภิรมย์ ลิปตพัลลภ)

กระทรวงพาณิชย์
นายไชยา สะสมทรัพย์ รมว. (ตำแหน่งเดิม)
พ.ต.ท. บรรยิน ตั้งภากรณ์ รมช.
นาย สงคราม เลิศกิจไพโรจน์ รมช. ***

กระทรวงยุติธรรม
นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ กระทรวงแรงงาน
นางอุไรวรรณ เทียนทอง รมว. (ตำแหน่งเดิม)

กระทรวงวัฒนธรรม
นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล รมว.
กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
นายวุฒิพงศ์ ฉายแสง รมว. (ตำแหน่งเดิม)

กระทรวงสาธารณสุข
ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.
นายวิชาญ มีนชัยนันท์ รมช. ***

กระทรวงอุตสาหกรรม
พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รมว. ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคพผ. (แทนสุวิทย์ คุณกิตติ) --------------------------------

หมายเหตุ
รายชื่อบุคคลที่คาดว่าจะได้รับการแต่งตั้งดำรงตำแหน่งในคณะรัฐบาลนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ส่วนสัญญลักษณ์ *** หมายถึงบุคคลที่อาจเข้ามาสอดแทรกหรือสลับตำแหน่งรัฐมนตรี----------------

เครดิต:หนังสือพิมพ์มติชนออนไลน์

โดย :
น.ส.เสาวรส รักแก้ว 5131202087 น.ส.รจนา วงษารัตน์ 4931601817
นายอนุชา พวงมณี 5131601205 น.ส.สุปราณี สุริยะจันทร์ 5131601201
นายเจษฎา เอื้อเฟื้อ 5131601027 น.ส.จุรีย์พร จันทร์แก้ว 5131601025
นายชัชชัย รักสันติสุข 5131601038 น.ส.ผาณิตตา ศรีวงษ์ 5131601126
นายนเรศ วงศ์ชัยพาณิชย์ 5131601097 น.ส.อมรรัตน์ จิรนนท์วงศ์ 5131601208
น.ส.จุรีรัตน์ อูปซาง 5131205227

วันอังคารที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2551

พธม.ชี้ครม.เป็นพวก"ฝนตกขี้หมูไหล" ไร้ความชอบธรรม



ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 10.00 น. พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำกลุ่มพันธมิตรเพื่อประชาธิปไตย กล่าวถึงโผรายชื่อคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ว่า พรรคพลังประชาชนกำลังจะถูกยุบและถูกตัดสิทธิการเมือง 5 ปี แต่กลับยังตั้งบุคคลเหล่านี้เป็นรัฐมนตรีอีก ทั้งนี้ เรื่องของบ้านเมืองไม่ใช่เรื่องเล่นๆ ก็รู้อยู่แล้วว่าอนาคตอันใกล้จะถูกยุบพรรคอยู่แล้ว ก็ยังตั้งมาอีก ด้านนายสมศักดิ์ โกสัยสุข แกนนำพันธมิตรฯ กล่าวว่า คณะรัฐมนตรีเป็นพวกฝนตกขี้หมูไหล เพราะนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี ก็เคยไปพบกับสมเด็จฮุนเซ็น นายกรัฐมนตรีกัมพูชา สมัยที่เจรจากรณีพิพาทปราสาทเขาพระวิหาร ทำให้รัฐบาลชุดนี้หมดความชอบธรรมไปแล้ว เพราะหลายคนเป็นรัฐมนตรีที่ยกมือเรื่องเขาพระวิหาร ตนจึงไม่รู้สึกตื่นเต้นหรือคาดหวังอะไรกับครม.ชุดนี้ พรรคกำลังจะถูกยุบ เพราะโกงการเลือกตั้งและได้ตั้งพรรคการเมืองใหม่รอไว้แล้วอย่างนี้ประชาชนจะหวังอะไรได้

เครดิต:หนังสือพิมพ์มติชนออนไลน์
โดย :
น.ส.เสาวรส รักแก้ว 5131202087 น.ส.รจนา วงษารัตน์ 4931601817
นายอนุชา พวงมณี 5131601205 น.ส.สุปราณี สุริยะจันทร์ 5131601201
นายเจษฎา เอื้อเฟื้อ 5131601027 น.ส.จุรีย์พร จันทร์แก้ว 5131601025
นายชัชชัย รักสันติสุข 5131601038 น.ส.ผาณิตตา ศรีวงษ์ 5131601126
นายนเรศ วงศ์ชัยพาณิชย์ 5131601097 น.ส.อมรรัตน์ จิรนนท์วงศ์ 5131601208
น.ส.จุรีรัตน์ อูปซาง 5131205227

วันจันทร์ที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2551

พันธมิตรฯขู่"สมชาย"มาโดนไล่แน่ เพราะยิ่งกว่านอมินี

พล.ต.จำลอง ศรีเมือง พร้อมนายสมศักดิ์ โกศัยสุข แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ร่วมแถลงข่าวที่ห้องสื่อมวลชน ทำเนียบรัฐบาล ย้ำว่าจะต่อสู้ต่อไปจนกว่าจะมีการเมืองใหม่ โดยนายสมศักดิ์ ชี้แจงแนวคิดการเมืองใหม่และรัฐบาลประชาภิวัฒน์ว่า เรื่องรายละเอียดยังไม่ได้กำหนด เพราะต้องชี้ให้เห็นถึงเป้าหมายก่อนว่า ผู้บริหารประเทศต้องคนที่สุจริต ไม่โกง ได้รับการยอมรวมจากทุกฝ่ายในสังคม และเปิดโอกาสทุกฝ่ายเข้ามามีส่วนร่วม ทั้งนี้ลักษณะผู้นำที่พันธมิตรต้องการคือ 1.เป็นคนดี 2.ตรวจสอบได้ 3.ถ้าไม่ดี ต้องถอดถอนได้ง่าย ไม่เช่นนั้นจะเป็นลักษณะเผด็จการรัฐสภา นายสมศักดิ์ ยังกล่าวย้ำว่า หากนายกฯมาจากพรรคพลังประชาชน พันธมิตรฯก็จะชุมนุมขับไล่ต่อไป เพราะถือว่าไม่ฟังเสียงประชาชน และถึงจะหน้าด้านตั้งรัฐบาลได้ พันธมิตรฯ ชุมนุมขับไล่ต่อไปจนกว่าออกเบ็ดเสร็จ และมีรัฐบาลประชาภิวัฒน์ อย่างไรก็ตาม แม้พรรคประชาธิปัตย์จะยอมรับนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชาชน แต่พันธมิตรฯ ไม่ยอมรับ เพราะนายสมชายไม่ใช่แค่นอมินี แต่เป็นถึงน้องเขยของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ "นายสมชายเป็นอย่างไรใครก็รู้ นายสมัครยังเป็นแค่นอมินี แต่นายสมชายเป็นถึงเจ้าภาพ เกี่ยวข้องกับครอบครัว เป็นสามีนางเยาวภา เป็นถึงเจ้าภาพของการโกงไม่ใช่แค่นอมินีแล้ว ทั้งนี้ไม่ต้องรอดูพฤติกรรมการทำงาน เพราะที่ผ่านมานายสมชายก็ยกมือร่วมกับรัฐบาลนี้ทำความผิด ผมยังแปลกใจว่าทำไมประชาชนถึงมองไม่เห็น" นายสมศักดิ์ กล่าว

โดย :น.ส.เสาวรส รักแก้ว 5131202087 น.ส.รจนา วงษารัตน์ 4931601817นายอนุชา พวงมณี 5131601205 น.ส.สุปราณี สุริยะจันทร์ 5131601201นายเจษฎา เอื้อเฟื้อ 5131601027 น.ส.จุรีย์พร จันทร์แก้ว 5131601025นายชัชชัย รักสันติสุข 5131601038 น.ส.ผาณิตตา ศรีวงษ์ 5131601126นายนเรศ วงศ์ชัยพาณิชย์ 5131601097 น.ส.อมรรัตน์ จิรนนท์วงศ์ 5131601208น.ส.จุรีรัตน์ อูปซาง 5131205227

วันพฤหัสบดีที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2551

สมชายยันไม่มีชื่อสำรอง สว.ชู7คุณสมบัตินายกฯ



วันนี้ (11 ก.ย.) นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ รักษาการนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ ส.ส.พรรคพลังประชาชน มีมติเสนอให้นายสมัคร สุนทรเวช กลับมาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง ว่า ตนไม่ได้เข้าร่วมประชุมด้วย เพราะต้องเดินทางไปทำงานที่ จ.เชียงใหม่ แต่เท่าที่ทราบขณะนี้ ผลการประชุมยังไม่แล้วเสร็จ แต่จะเสร็จสิ้นภายในวันนี้ โดยมอบหมายให้ นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี เลขาธิการพรรคพลังประชาชน นำผลการประชุมของพรรคไปแจ้งแก่พรรคร่วมรัฐบาลอีก 5 พรรค เพื่อนำไปหารือและประชุมกันภายในพรรคอีกครั้งหนึ่ง
ส่วนกรณีที่เกรงกันว่าหากเสนอชื่อ นายสมัคร เป็นนายกรัฐมนตรี อาจมีเสียงคัดค้านจากกลุ่มพันธมิตรฯ และทางพรรคจะมีการเสนอชื่อนายกรัฐมนตรีสำรองหรือไม่นั้น นายสมชาย กล่าวว่า การพิจารณาเลือกนายกรัฐมนตรี คงจะสำรองไม่ได้ หากลงมติเสนอคนใดก็ต้องเป็นคนนั้น แต่ยืนยันว่าคนที่ถูกเลือกเป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่นั้น จะต้องเป็นคนที่สามารถลดความขัดแย้งได้อย่างแน่นอน
วันเดียวกัน น.ส.รสนา โตสิตระกูล ส.ว.กทม. ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการตรวจสอบการทุจริตและเสริมสร้างธรรมาภิบาล พร้อมด้วยนายประสาร มฤคพิทักษ์ ส.ว.สรรหา น.ส.สุมล สุตะวิริยะกุล ส.ว.เพชรบุรี นายสาย กังกเวคิน ส.ว.ระยอง ร่วมแถลงข่าวเสนอคุณสมบัติ 7 ประการ ของผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งเป็นนายกรัฐมนตรี คือ 1. ต้องมีความอดทน ตั้งใจในการแก้ไขปัญหาของประเทศ โดยยึดหลักสันติวิธี 2. มีจิตสำนึก ซื่อสัตย์ และบริหารงานอย่างมีธรรมาภิบาล ประชาชนสามารถตรวจสอบได้ 3. จะต้องเป็นผู้ที่ทำประชาชนเกิดความไว้วางใจ และมีเสถียรภาพ 4. ไม่เป็นผู้สร้างเงื่อนไขในการแบ่งฝักแบ่งฝ่าย จนนำไปสู่ความแตกแยก
5. จะต้องมาจากระบบรัฐสภา 6.มีวิสัยทัศน์ในการปฏิรูปการเมือง ใจกว้าง และพร้อมรับฟังความคิดเห็น และ 7. เปิดโอกาสให้ประชาชน สื่อมวลชน และองค์กรต่างๆ สามารถแสดงความคิดเห็นทางการเมืองได้โดยไม่ถูกครอบงำ ทั้งนี้ ขอให้ทางสภาผู้แทนราษฎรหยิบยกข้อเสนอทั้ง 7 ประการเข้าสู่การพิจารณา เพื่อให้เกิดการปฏิรูปการเมือง ซึ่งจะทำให้เกิดประโยชน์ต่อประชาชนและประเทศชาติ
น.ส.รสนา กล่าวถึงมติของพรรคพลังประชาชนยังคงยืนยันส่งนายสมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรคพลังประชาชนขึ้นดำรงตำแหน่งนายกฯ อีกครั้ง ว่า สาเหตุที่ทางกรรมาธิการเสนอแนะคุณสมบัติ เพราะต้องการเตือนสติให้สภาฯ ได้คำนึงถึงสภาวการณ์ที่ไม่ปกติในขณะนี้ รวมทั้งสภานิติบัญญัติต้องช่วยกันแก้ปัญหาและตั้งสติในเรื่องนี้
เมื่อถามว่า ส.ว.เห็นด้วยกับแนวคิดจัดตั้งรัฐบาลแห่งชาติหรือไม่ น.ส.รสนา กล่าวว่า ขณะนี้ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องจัดตั้งรัฐบาลแห่งชาติ ประเทศจำเป็นต้องมีฝ่ายตรวจสอบ จึงเห็นว่าควรยึดแนวทางตามระบอบรัฐสภาเหมือนเดิม

เครดิต : http://www.thairath.co.th/online.php?section=newsthairathonline&content=103832

จัดทำโดย

น.ส.ผาณิตตา ศรีวงษ์ 5131601126 น.ส.อมรรัตน์ จิรนนท์วงศ์ 5131601208
นายอนุชา พวงมณี 5131601205 น.ส.เสาวรส รักแก้ว 5131202087
น.ส.รจนา วงษารัตน์ 4931601817 นายเจษฎา เอื้อเฟื้อ 5131601027
น.ส.จุรีย์พร จันทร์แก้ว 5131601025 นายชัชชัย รักสันติสุข 5131601038
นายนเรศ วงศ์ชัยพาณิชย์ 5131601097 น.ส.จุรีรัตน์ อูปซาง 5131205227
น.ส.สุปราณี สุริยะจันทร์ 5131601201

วันจันทร์ที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2551

นับถอยหลัง “หมัก” ตกเก้าอี้ ศาลนัดชี้ชิมไปฯ พรุ่งนี้ 14.00 น.

“หมัก” ให้การมัดคอตัวเองกรณีลูกจ้างชิมไปบ่นไป ต่อหน้าองค์คณะตุลาการ ศาล รธน.ไม่รีรอสั่งฟังคำวินิจฉัยทันทีพรุ่งนี้ เวลา 14.00 น.
วันนี้ (8 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานภายหลังศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งบัลลังก์ รับฟังคำชี้แจงของนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี และนายศักดิ์ชัย แก้ววันณี กรรมการผู้จัดการบริษัท เฟซ มีเดีย จำกัดในคำร้องที่ประธานวุฒิส่งความเห็นสมาชิกวุฒิสภาขอให้วินิจฉัยการสิ้นสุดความเป็นรัฐมนตรี กรณีการจัดรายการชิมไปบ่นไป และยกโขยง 6 โมงเช้า ว่าขัดต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 182 วรรค 1 (7) และมาตรา 267 ประกอบมาตรา 82 วรรค 3 และมาตรา 91 หรือไม่ โดยศาลได้นัดฟังคำวินิจฉัยในวันพรุ่งนี้ (9 ก.ย.) เวลา 14.00 น.
อย่างไรก็ดีก่อนหน้านี้ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศที่ศาลรัฐธรรมนูญ เมื่อเวลา 09.30 น.คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญที่มี นายชัช ชลวร เป็นประธานได้ออกนั่งบัลลังก์ ไต่สวนพยานผู้ถูกร้องในคำร้องที่ประธานวุฒิสภาส่งคำร้องของนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนา ส.ว.สรรหาและคณะส.ว. รวมทั้งคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยการสิ้นสุดความเป็นรัฐมนตรี ของนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี เนื่องจากเป็นพิธีกรดำเนินรายการ "ชิมไปบ่นไป" ตามรัฐธรรมนูญ 2550 มาตรา 182 วรรคหนึ่ง (7) และมาตรา 267 ประกอบ 182 วรรคสาม และมาตรา 91 โดยพยานผู้ถูกร้องมี 2 ปากคือ นายศักดิ์ชัย แก้วมณีสกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท เฟซ มีเดีย จำกัด และนายสมัคร
ทั้งนี้ นายสมัคร ได้ขึ้นให้การโดยระบุว่า ได้เริ่มทำรายการ ชิมไปบ่นไป ตั้งแต่ปี 2543 โดยบริษัท เฟซมีเดีย จำกัด ได้มาชวนให้เป็นพิธีกร หลังจากนั้นก็ทำมาตอลด จนกระทั่งรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ในวันที่ 6 ก.พ. 2551 และหลังจากนั้นก็ได้บันทึกเทปรายการดังกล่าว 2-3 ครั้ง ซึ่งการบันทึกเทปครั้งหนึ่งก็สามารถนำไปออกอากาศได้ 1 เดือน โดยตนไม่ได้เรียกร้องค่าตอบแทน และไม่ได้รับค่าตอบแทนแต่อย่างใด
นายสมัคร ให้การว่า ทางบริษัทได้จ่ายค่าน้ำมันและค่ากับข้าวให้กับคนขับรถของตน ซึ่งรายละเอียดนั้น เขาจะนำไปใช้จ่ายอย่างไรตนไม่ทราบ และหลังจากที่มีคนทักท้วงว่า อาจขัดต่อรัฐธรรมนูญ ตนก็ไม่ทำรายการดังกล่าวอีก โดยบอกให้รายการหาพิธีกรมาแทน แต่ที่ทำอยู่เพราะทนายบอกว่า เนื่องจากเป็นการรับจ้างไม่ใช่ลูกจ้าง จนกระทั่งมีข่าวลงตามหนังสือพิมพ์ ตนก็สั่งระงับการออกอากาศทันที รวมทั้งให้เก็บเทปบันทึกรายการ กลัวสถานีนำไปออกอากาศซ้ำอีก
นายสมัคร กล่าวเพิ่มเติมว่า "ถ้าตนผิดจริง อย่าให้ตนไม่มีความเจริญ แต่ถ้าไม่ได้ทำผิด ก็ขอให้ตนได้รับความสุขความเจริญ" เป็นที่น่าสังเกตุว่า ระหว่างขึ้นให้การต่อศาลนั้นนายสมัคร ได้มีท่าทีในการตอบคำซักถามของนายเรืองไกร ลิกิจวัฒนะ ส.ว.ระบบสรรหา ผู้ที่ร้องเรียนเรื่องดังกล่าวอย่างแข็งกร้าว พร้อมกับได้ยอกย้อนตอบคำถามเป็นบางคำถามอย่างดุดัน
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ภายหลังจากนายสมัคร ให้การต่อผู้ร้องเสร็จสิ้นแล้ว ทางองค์คณะตุลาการรัฐธรรมนูญ ได้สอบถามในประเด็นที่ยังสงสัย เพื่อต้องการให้พยานยืนยัน หรือ ปฎิเสธ โดยศาลได้สอบถามนายสมัคร ว่า คนขับรถได้แจ้งพยานเกี่ยวกับเรื่องค่าตอบแทน หรือไม่ และ คนขับรถได้นำเงินไปใช้ในเรื่องใดบ้าง นายสมัคร ตอบว่า ไม่ทราบและไม่รู้ว่านำไปใช้เรื่องใด โดยนายสมัคร จะอธิบายเกี่ยวกับคนขับรถ ศาลได้ติงว่า ไม่จำเป็นต้องนำประเด็นข้อกฎหมาย มาหักล้างข้อเท็จจริง
นอกจากนั้น ระหว่างที่ศาลถาม และยังถามไม่จบ นายสมัคร พยายามพูดแทรกออกมา ศาลต้องติงว่า ขอให้ฟังคำถามให้จบก่อน ทำให้นายสมัคร ถึงกับแสดงอาการไม่พอใจ ศาลได้ถามอีกว่า หลังเกิดเป็นคดีขึ้น พยาน(นายสมัคร)ได้ไปอัดเทปรายการที่บ้านของพยานและไม่ยอมให้สื่อมวลชนทำข่าว ใช่หรือไม่ นายสมัคร ตอบว่าใช่ โดยอ้างว่า ไม่ต้องการให้วุ่นวายและตัดเรื่องค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับคนขับรถ โดยศาลถามว่า หลังจากอัดรายการที่บ้านแล้ว คนขับรถยังได้รับค่าตอบแทนอยู่หรือไม่ นายสมัคร ตอบว่า ใช่เนื่องจากเป็นเรื่องที่คนขับรถต้องใช้จ่าย แต่ไม่เกี่ยวกับตน
อย่างไรก็ตาม ในระหว่างที่ศาลได้สอบถาม เกี่ยวกับพยานเอกสารที่ได้จากการถอดเทปรายการ สนทนาประสาสมัคร เพื่อให้พยานยืนยันว่า เป็นเอกสารที่ถูกต้องหรือไม่ พยานได้ถาม ศาลว่า แล้วมาเกี่ยวอะไรกับคดีนี้ ศาลแจ้งว่า เนื่องจาก พยานได้พูดเป็นข้อเท็จจริงในรายการเกี่ยวกับคดีนี้ไว้ จึงจำเป็นต้องนำมาประกอบการพิจารณา ทำให้นายสมัคร ทำเสียง อือ อือ และมีอาการไม่พอใจ ศาลยังได้ถามถึงเรื่อง ภาพโลโก้ รูปผู้ชายที่มีลักษณะจมูกรูปชมพู่ โดยศาลถามว่า เป็นรูปของพยานใช่หรือไม่ นายสมัคร ตอบว่าใช่ และอธิบายว่า เป็นรูปของตนที่คนทั้งประเทศรับรู้มาตั้งหลายปีแล้ว
จนกระทั่งนายสมัครให้การเสร็จเมื่อเวลาประมาณ 10.30 น. นายสมัคร ได้ขออนุญาตศาลออกจากห้องพิจารณาคดีเพื่อไปปฏิบัติภารกิจทันที และขึ้นรถออกไปจากศาลรัฐธรรมนูญอย่างรวดเร็ว
เครดิต :www.sappasan.com/viewtopic.php?f=72&t=659 - 22k
โดย :
น.ส.เสาวรส รักแก้ว 5131202087 น.ส.รจนา วงษารัตน์ 4931601817
นายอนุชา พวงมณี 5131601205 น.ส.สุปราณี สุริยะจันทร์ 5131601201
นายเจษฎา เอื้อเฟื้อ 5131601027 น.ส.จุรีย์พร จันทร์แก้ว 5131601025
นายชัชชัย รักสันติสุข 5131601038 น.ส.ผาณิตตา ศรีวงษ์ 5131601126
นายนเรศ วงศ์ชัยพาณิชย์ 5131601097 น.ส.อมรรัตน์ จิรนนท์วงศ์ 5131601208
น.ส.จุรีรัตน์ อูปซาง 5131205227

วันพฤหัสบดีที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2551

ภาพมือที่สามวันที่ นปช. ปะทะ พันธมิตรฯ

ภาพบันทึกจากกล้องของโทรทัศน์ BBC เป็นชายฉกรรจ์อยู่ในมุมมืด คาดว่าใช้อาวุธปืนยิงเข้ามาในกลุ่มม็อบ นปช. ที่กำลังบุกเข้าไปปะทะกับการ์ดพันธมิตรฯ ที่บริเวณเชิงสะพานมัฆวานรังสรรค์ ช่วงย่างเข้าวันใหม่ 2 กันยายนที่ผ่านมา ซึ่งมีเสียชีวิต 1 ศพ บาดเจ็บมากกว่า 40 คน
เครดิต : http://hilight.kapook.com/view/28504

โดย :
น.ส.เสาวรส รักแก้ว 5131202087 น.ส.รจนา วงษารัตน์ 4931601817
นายอนุชา พวงมณี 5131601205 น.ส.สุปราณี สุริยะจันทร์ 5131601201
นายเจษฎา เอื้อเฟื้อ 5131601027 น.ส.จุรีย์พร จันทร์แก้ว 5131601025
นายชัชชัย รักสันติสุข 5131601038 น.ส.ผาณิตตา ศรีวงษ์ 5131601126
นายนเรศ วงศ์ชัยพาณิชย์ 5131601097 น.ส.อมรรัตน์ จิรนนท์วงศ์ 5131601208
น.ส.จุรีรัตน์ อูปซาง 5131205227

วันจันทร์ที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2551

พันธมิตรกินไม่อั้น! ขยะท่วม ส้วมเต็ม ขี้ใส่ถุง


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่พันธมิตรปักหลักยึดทำเนียบรัฐบาลชุมนุมยืดเยื้อติดต่อกัน เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม เข้าสู่วันที่ 5 ผู้ชุมนุมเริ่มประสบปัญหาสุขภาวะ เนื่องจากมีคนเข้ามาจับจองพื้นที่ว่างในทำเนียบตั้งเต็นท์พักอาศัยเป็นจำนวนมาก จนเกิดสภาพคล้ายชุมชนแออัด นอกจากนี้ จำนวนสุขายังไม่เพียงพอ ส้วมบางแห่งเต็ม ใช้การไม่ได้ ทำให้ผู้ชุมนุมบางส่วนต้องหาที่ขับถ่ายตามมีตามเกิด บางคนถึงกับอุจจาระใส่ถุงดำ แต่ส่วนใหญ่มักใช้พื้นที่ลับตา เช่น ซอกตึกสันติไมตรี ด้านหลังตึกบัญชาการ แม้กระทั่งหลังรังนกกระจอกใหม่ ซึ่งเป็นที่ทำงานของสื่อมวลชนเพื่อปัสสาวะ ทำให้เกิดกลิ่นคละคลุ้งไปทั่ว
ขณะที่อาหารเครื่องดื่มของกลุ่มพันธมิตรก็มีการแจกจ่ายให้ผู้มาชุมนุมอย่างไม่ขาด ทั้งนี้ พนักงานจัดเก็บขยะของ กทม. ที่เข้ามาพร้อมรถขนถ่ายขยะ เปิดเผยว่า ทาง กทม.ได้จัดส่งรถมาขนขยะจากการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรทั้งหมดวันละ 10 คัน ด้านทำเนียบ 4 คัน สะพานมัฆวาน 4 คัน และรอบนอกอีก 2 คัน โดยจะเข้ามาขนขยะวันละ 2 ช่วง คือช่วงเช้า และช่วงเย็น โดยแต่ละคันจะวิ่งวนมาขนหลายรอบ โดยขยะส่วนใหญ่มักเป็นขยะเปียก เช่น เศษอาหาร กล่องโฟม ถุงขนม และขวดน้ำ ทั้งนี้ รถขนขยะแต่ละคันสามารถขนขยะได้เที่ยวละ 3 - 4 ตัน แต่ละวันผู้ชุมนุมพันธมิตรทิ้งขยะไม่ต่ำกว่าวันละ 80 ตัน
ขณะที่ ผู้ชุมนุมส่วนใหญ่เริ่มมีปัญหาด้านสุขภาพ เนื่องจากความเครียดสะสม และต้องชุมนุมท่ามกลางสายฝนติดต่อกันหลายคืน โดยเจ้าหน้าที่พยาบาลสาวของพันธมิตรรายหนึ่ง เปิดเผยว่า พันธมิตรได้เพิ่มเต็นท์พยาบาลเป็น 5 จุด ในทำเนียบ มีบริเวณด้านหน้าตึกสันติไมตรี บริเวณประตู 7 ขณะที่ภายนอกมี 3 จุด เรียงรายตั้งแต่สะพานมัฆวานไปจนถึงแยกมิสกวัน ทั้งนี้ ยาส่วนใหญ่ที่ผู้ชุมนุมมาขอ มักเป็นยาแก้เจ็บคอ หรือยาแก้ไข้ เนื่องจากตากฝนหลายวัน ขณะที่วานนี้เริ่มมีผู้ชุมนุมมาขอยาแก้ท้องเสียเป็นจำนวนมาก โดยมีอยู่รายหนึ่งถึงกับต้องนำตัวส่งโรงพยาบาล แต่ทั้งนี้ไม่ทราบว่ามาจากอาหารที่พันธมิตรแจกจ่ายหรือไม่ นอกจากนี้ ยาแก้แพ้ก็มีคนมาขอเป็นจำนวนมาก เนื่องจากหญ้าหน้าสนามไทยคู่ฟ้าเริ่มเน่า ทั้งนี้ ยาที่หน่วยพยาบาลได้แจกจ่ายให้กับผู้ชุมนุมมากที่สุด คือ ยาดม เพราะแฟนพันธุ์แท้ของพันธมิตรส่วนใหญ่มักเป็นผู้สูงอายุ
นอกจากนี้ หน่วยพยาบาลยังเตรียมการไว้รองรับหากตำรวจจะใช้แก๊สน้ำตาเพื่อสลายการชุมนุม โดยเตรียมผ้าเย็นไว้แจกจ่ายเป็นจำนวนมาก
โดย : นางสาวสุปราณี สุริยะจันทร์ 5131601201 นางสาวจุรีรัตน์ อูปซาง 5131205227
นางสาวจุรีย์พร จันทร์แก้ว 5131601025 นายนเรศ วงศ์ชัยพาณิชย์ 5131601097
นางสาวเสาวรส รักแก้ว 5131202087 นางสาวผาณิตตา ศรีวงษ์ 5131601126
นายอนุชา พวงมณี 5131601205 นางสาวรจนา วงษารัตน์ 4931601817
นายเจษฎา เอื้อเฟื้อ 5131601027 นางสาวอมรรัตน์ จิรนนท์วงศ์ 5131601208
นายชัชชัย รักสันติสุข 5131601038

กปน.-กปภ.มีมติตัดน้ำสน.กระทรวงทบวงกรม

กปน. - กปภ. มีมติตัดน้ำ สน. กระทรวง ทบวง กรม นัดหยุดงานตั้งแต่พรุ่งนี้ เมื่อเวลา 21.00 น. สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ การประปานครหลวง (กปน.)ได้ขึ้นเวทีพันธมิตรฯประกาศจุดยืนจากการที่สมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ ประกาศเข้าร่วมการชุมนุมกับกลุ่มพันธมิตร โดยเห็นด้วยกับ พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี อดีต รองผอ. กอ.รมน. ที่ระบุว่าไม่ควรตั้งรับอีกต่อไปและต้องปฏิบัติการเชิงรุก ถึงแม้รัฐบาลจะใช้ความสงบสยบความเคลื่อนไหว อย่างไรก็ตามพวกนักการเมืองชั่วช้ามักจะแพ้ทางทหาร ดังนั้นจึงขอหนุนให้ทหารทำปฏิวัติซึ่งสหภาพแรงงาน กปน. ขอแถลงการณ์และประกาศจุดยืนอยู่ข้างพันธมิตรฯ ดังนี้คือ 1. สหภาพ กปน. มีมติให้สมาชิกเข้าร่วมชุมนุมกับพันธมิตรฯจนกว่านายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี จะลาออก 2.ขอประณามพฤติกรรมที่มีการสั่งการให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติใช้ความรุนแรงในการสลายการชุมนุม 3.มีมติให้สั่งระงับการใช้น้ำแก่หน่วยราชการกระทรวง ทบวง กรม ต่างๆ และ 4.ให้สมาชิกสหภาพ กปน. ลาหยุดงานเพื่อเข้าร่วมการชุมนุมตั้งวันที่ 1 ก.ย. เป็นต้นไป จากนั้นประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) ได้ขึ้นประกาศแถลงการณ์เรียกร้องให้สมาชิกสหภาพเข้าร่วมชุมนุมกับพันธมิตรฯตามมติของสรส. เพราะสถานการณ์บ้านเมืองเกิดความวุ่นวายจากการบริหารงานของรัฐบาล จึงมีมติดังนี้ 1.สหภาพ กปภ.จะติดตามพฤติกรรมของรัฐบาลที่จะใช้ความรุนแรงกับผู้ชุมนุมโดยจะงดการจ่ายน้ำให้กับส่วนราชการทั่วประเทศที่ค้างชำระกับ กปภ. โดยจะพิจารณาเฉพาะหน่วยงานในสังกัด สำนักงานตำรวจแห่งชาติ 2.สนับสนุนให้สมาชิกเข้าร่วมกับพันธมิตรฯ และ 3.ขอให้สมาชิกให้ความร่วมมือและลาหยุดงานเข้าร่วมการชุมนุมตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย. เมื่อเวลา 21.20 น. แกนนำพันธมิตรฯ ขึ้นเวทีปราศรัย โดย พล.ต.จำลอง ศรีเมือง ขึ้นปราศรัยคนแรก ใจความระบุว่าภาพโดยรวม กลุ่มพันธมิตรฯ กำลังจะได้รับชัยชนะแล้ว ขอให้ผู้ร่วมชุมนุมมั่นใจ ทั้งนี้จะเห็นได้ว่าตัวแทนสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ ต่างออกมาร่วมสนับสนุนกลุ่มพันธมิตร นั้นเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าคนส่วนใหญ่นั้นไม่สามารถจะทนกับรัฐบาลชุดนี้ได้อีกแล้ว นอกจากนี้ พล.ต.จำลอง ยังได้พูดปลุกเร้าผู้ร่วมชุมนุมที่บริเวณทำเนียบรัฐบาล และผู้ที่ชมการถ่ายทอดจากเอเอสทีวี ด้วยการอ้างถึงเหตุการณ์ที่รัฐบาลใช้ความรุ่นแรงกับประชาชนในวันที่ 29 สิงหาคมที่ผ่านมาอีกด้วยต่อมาเวลา 22.00 น. นายพิภพ ธงไชย หนึ่งในแกนนำ พธม. ขึ้นเวทีปราศรัยโดยได้ให้คนที่ไม่ได้ออกมาร่วมชุมนุมที่ทำเนียบรัฐบาล แต่มีแนวคิดทางเดียวกับ พธม. ให้ออกมาชุมนุมตามสี่แยกไฟแดงทันที หากว่าแกนนำทั้ง 9 คนโดนจับกุมตัว นอกจากนี้ยังประกาศถึงชัยชนะที่ กลุ่ม พธม.ชุมนุมครบ 99 วัน โดยใช้แนวทางอหิงสา ไม่มีอาวุธ มีเพียงมือเปล่าเท่านั้นแต่ก็ยังสามารถยึดทำเนียบรับบาลได้ โดยที่รัฐบาลยังไม่มีมาตราการที่จะปราบปรามกลุ่มพันธมิตร แต่อย่างไรก็ตามก่อนที่รัฐบาลจะมีมาตราการออกมาปราบปรามก็ต้องชิงลงมือเสียก่อน ทั้งนี้ยังให้ความมั่นใจกลุ่มผู้ชุมนุมด้วยว่า ไม่ต้องเกรงกลัวหากรัฐบาลจะใช้กำลังเข้าสลายการชุมนุมเพราะว่ารัฐวิสาหกิจทั้งนำและไฟ พร้อมที่จะตัดน้ำและไฟหน่วยงานราชการทันทีหากเกิดมีการใช้กำลัง อีกทั้งสื่อทั่วโลกก็จะเสนอข่าวออกไปนั่นหมายความความว่าหากรัฐบาลชุดนี้ใช้กำลังสลายการชุมนุมก็จะเป็นการประจานตัวเอง นายพิภพ ระบุอีกว่าการชุมนุมขับไล่รัฐบาลชุดนี้เป้าหมายไม่ใช่การขับไล่นายสมัคร สุนทรเวช แต่เป็นตัวบงการใหญ่ที่อยู่เบื้องหลัง คือ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อีกทั้งหากการชุมนุมครั้งนี้สำเร็จขอให้ชาวบ้านที่ยากไร้ในสลัม กรรมกร ชาวไร่ ชาวนา มั่นใจได้ว่าชีวิตของทุกคนจะมีความสุขขึ้น เพราะหลังจากนี้ไปจะไม่มีนักการเมืองที่เลว คอรัปชั่น ไปบริหารราชการแผ่นดินได้ เพราะหลังจากนี้ไปการเมืองในประเทศไทยจะเป็นการเมืองใหม่ ไม่มีข้าราชการ นักการเมืองเข้าไปกอบดกยผลประโยชน์

จัดทำโดย
น.ส.รจนา วงษารัตน์ 4931601817 นายอนุชา พวงมณี 5131601205
น.ส.เสาวรส รักแก้ว 5131202087 นายเจษฎา เอื้อเฟื้อ 5131601027
น.ส.จุรีย์พร จันทร์แก้ว 5131601025 นายชัชชัย รักสันติสุข 5131601038
น.ส.ผาณิตตา ศรีวงษ์ 5131601126 นายนเรศ วงศ์ชัยพาณิชย์ 5131601097
น.ส.อมรรัตน์ จิรนนท์วงศ์ 5131601208 น.ส.จุรีรัตน์ อูปซาง 5131205227
น.ส.สุปราณี สุริยะจันทร์ 5131601201

วันอาทิตย์ที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2551

พันธมิตรฯ ขู่! จะยกพลปิด สนามบินในภาคใต้ 7 แห่ง

ผู้สื่อข่าวรายงาน วันนี้ (31 ส.ค.) ที่ภายในบริเวณทำเนียบรัฐบาล พล.ต.จำลอง ศรีเมือง และนายสมศักดิ์ โกศัยสุข แกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย นำนายสุนทร รักษรงค์ ผู้ประสานงานกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิไตย ภาคใต้ และคณะ แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนถึงท่าทีการเคลื่อนไหวของกลุ่มพันธมิตรฯ ในพื้นที่ภาคใต้ นายสุนทร กล่าวว่า พันธมิตรฯ ภาคใต้ ได้ออกแถลงการณ์ ฉบับที่ 2 ระบุว่า ภายหลังจากนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ยังคงดื้อดึงที่จะบริหารราชการแผ่นดินต่อไปและมีการวางแผนให้กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือเคลื่อนไหวปะทะกับพันธมิตรฯ ที่ทำเนียบรัฐบาล เพื่อฉวยโอกาสประกาศ พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินนั้นพันธมิตรฯ ภาคใต้ ขอประกาศว่า รัฐบาลหมดความชอบธรรมในการบริหารประเทศและขอประกาศมาตรการ ดังนี้
1. จะปิดการเดินทาง ทางอากาศของสนามบินภาคใต้ 7 แห่ง คือ สนามบินนานาชาติภูเก็ต สนามบินนานาชาติหาดใหญ่ สนามบินกระบี่ สนามบินสุราษฎร์ธานี สนามบินเกาะสมุย สนามบินนครศรีธรรมราช และสนามบินตรัง
2. จะปิดการเดินทางทางบก ตั้งแต่ อ.บ่อนอก จ.ประจวบคีรีขันธ์
3. ขอประกาศให้นายสมัคร สุนทรเวช เป็นบุคคลต้องห้ามเข้ามาในพื้นที่ภาคใต้โดยเด็ดขาด นับตั้งแต่บัดนี้ เป็นต้นไป ทั้งนี้ เพื่อความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง พันธมิตรฯ ขอเรียกร้องให้ลาออกจากตำแหน่งโดยทันที อย่างไรก็ตาม มาตรการดังกล่าว จะเริ่มดำเนินการทันทีถ้ามีการประกาศใช้ พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถาน

จัดทำโดย
น.ส.เสาวรส รักแก้ว 5131202087 น.ส.รจนา วงษารัตน์ 4931601817
นายอนุชา พวงมณี 5131601205 น.ส.สุปราณี สุริยะจันทร์ 5131601201
นายเจษฎา เอื้อเฟื้อ 5131601027 น.ส.จุรีย์พร จันทร์แก้ว 5131601025
นายชัชชัย รักสันติสุข 5131601038 น.ส.ผาณิตตา ศรีวงษ์ 5131601126
นายนเรศ วงศ์ชัยพาณิชย์ 5131601097 น.ส.อมรรัตน์ จิรนนท์วงศ์ 5131601208
น.ส.จุรีรัตน์ อูปซาง 5131205227

นาทีต่อนาที พันธมิตรปฎิบัติการทั่วประเทศ

อย่างไรก็ตาม หลังมีกระแสข่าวว่า ขณะที่เจ้าหน้าที่หน่วยอลินทราชฝ่าด้านล้อมของกลุ่มพันธมิตรเข้าไปภายในทำเนียบรัฐบาล ช่วงประตู 5 นั้น มีการยิงแก๊สน้ำตาใส่ผู้ชุมนุม พล.ต.ต สุรพล ทวนทอง รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ยืนยันว่า ไม่มีการใช้แก๊สน้ำตาแน่นอนแต่เป็นควันของถังดับเพลิงที่กลุ่มพันธมิตร นำมาฉีดใส่เจ้าหน้าที่ ซึ่งขอยืนยันว่า เจ้าหน้าที่จะไม่ใช้ความรุนแรงและไม่มีการทำร้ายประชาชน ขณะที่ภายในทำเนียบรัฐบาล มีเจ้าหน้าที่ตรึงกำลังกว่า 2,000 นายแล้ว
เจ้าหน้าที่ตำรวจร่วมพันนาย ได้ฝ่าแนวรั้วของกลุ่มพันธมิตรฯ ที่ตั้งด่านสกัด บริเวณสำนักงาน สพฐ. กระทรวงศึกษาธิการ กับ บช.น. เข้ามาประชิดกับแนวรั้วของกลุ่มพันธมิตรฯ ที่ตั้งอยู่บริเวณสี่แยกมิสกวัน ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้มีการนำกระบองตีเกราะ พร้อมทั้งโห่ร้องสร้างความตกใจให้เจ้าหน้าที่และข้าราชการกระทรวงศึกษาธิการเป็นอย่างมาก ทำให้ข้าราชการต่างวิ่งกรูกันขึ้นไปบนดาดฟ้าของอาคาร สพฐ. เพื่อสังเกตการณ์และปรบมือโห่ร้อง โดยบอกว่า อย่าทะเลาะกัน อย่าตีกัน ขณะที่กลุ่มพันธมิตรฯ ได้มีการกำลังน้ำดื่มที่มีผู้บริจาคมากองกั้นเป็นกำแพง เพื่อป้องกันเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าสลายการชุมนุม เนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ อยู่ห่างจากผู้ชุมนุมเพียง 100 เมตร
เครดิต : www.kapook.com

โดย :
น.ส.เสาวรส รักแก้ว 5131202087 น.ส.รจนา วงษารัตน์ 4931601817
นายอนุชา พวงมณี 5131601205 น.ส.สุปราณี สุริยะจันทร์ 5131601201
นายเจษฎา เอื้อเฟื้อ 5131601027 น.ส.จุรีย์พร จันทร์แก้ว 5131601025
นายชัชชัย รักสันติสุข 5131601038 น.ส.ผาณิตตา ศรีวงษ์ 5131601126
นายนเรศ วงศ์ชัยพาณิชย์ 5131601097 น.ส.อมรรัตน์ จิรนนท์วงศ์ 5131601208
น.ส.จุรีรัตน์ อูปซาง 5131205227

วันเสาร์ที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2551

ตร.โยนมือที่สามยิงแก๊สน้ำตา"โกวิท"อ้างไม่มีอะไร



"โกวิท"บอก"ไม่มีอะไรๆ" ที่มีการยิงแก๊งน้ำตาเข้าใส่ผู้ชุมนุมที่บข.น. ขณะที่รองผบช.น.ปฏิเสธ ตำรวจไม่ได้เป็นผู้ยิงแก๊สน้ำตาใส่ฝูงชน แต่เป็นมือที่สามวันนี้ (29 ส.ค.) เมื่อเวลา 20.28 น. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย ได้เดินทางกลาบเข้ามายังกองบัญชาการตำรวจนครบาลอีกครั้ง และเมื่อมาถึง ผู้สื่อข่าวได้กรูกันเข้าไปสอบถามถึงเรื่องที่กลุ่มพันธมิตรฒาชุมนุมกันที่หน้าบช.น. แต่ถูกตำรวจยิงแก๊งน้ำตาใส่จำนวนหลายลูกเพียงสั้นๆว่า "เรื่องที่เกิดขึ้น ไม่มีอะไรนะ เราคนไทยด้วยกัน บ้านเมืองต้องไปได้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ จะอดทนจนถึงที่สุด" จากนั้น พล.ต.อ.โกวิท ได้เดินขึ้นไปประชุมร่วมกับพล.ต.ทงอัศวิน ขวัญเมือง ผบช.น. และนายตำรวจระดับสูงของบช.น.ต่อไปก่อนหน้านี้ เมื่อเวลา 20.00 น. พล.ต.ต.สุพร พันธุ์เสือ รองผบช.น. เปิดเผยในเรื่องเดียวกันว่า ตำรวจจะต้องรักษาฐานที่ตั้ง ซึ่งเป็นภาษีของประชาชน จึงจำเป็นต้องรักษาเอาไว้ ไม่ให้ใครเข้ามาได้แม้แต่คนเดียว ซึ่งกำลังตำรวจที่อยู่ในบช.น.เป็นเพียงกำลังรักษาสถานที่เท่านั้น ไม่มีกองกำลังสนับสนุนเสริมอยู่ในบช.น.ส่วนการยิงแก๊สน้ำตาส่งกลุ่มพันธมิตรฯ นั้น พล.ต.ต.สุพร ยืนยันว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้ยิงแก๊สน้ำตาใส่กลุ่มพันธมิตรฯ แต่จะเป็นการสร้างสถานการณ์จากมือที่สามหรือไม่ตนไม่ทราบ นอกจากนี้ ได้มีคำสั่งให้ตำรวจที่พักอยู่แยกนางเลิ้ง และภายในศูนย์สวัสดิภาพเด็กเยาวชนและสตรี ได้ถอนกำลังออกมาแล้ว โดยสาเหตุที่ไปพักตรงนั้น เพราะบช.น.มีที่พักไม่เพียงพอ จึงอาจทำให้สร้างความไม่พอใจต่อผู้ชุมนุม ตนจึงให้ถอนกำลังออกมาอย่างไรก็ตาม ตำรวจจะทำทุกวิถีทาง ที่จะผลักดันผู้ชุมนุมให้ออกไป โดยจะใช้ความรุนแรงผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ภายหลังเหตุการณ์บริเวณด้านหน้าบช.น.สงบลง ทางหน่วยอรินทราชได้สาธิตการใช้กระสุนยางให้สื่อดู และได้ยืนยันว่า หากถูกกระสุนยางยิงเข้าใส่นั้น จะไม่ถึงตาย แต่จะทำให้จุกเท่านั้น ซึ่งตำรวจจะยิงเฉพาะในยามคับขัน และได้รับคำสั่งจากผู้บังคับบัญชาเท่า
เครดิต: ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์คมชัดลึก
จัดทำโดย
น.ส.เสาวรส รักแก้ว 5131202087 น.ส.รจนา วงษารัตน์ 4931601817
นายอนุชา พวงมณี 5131601205 น.ส.สุปราณี สุริยะจันทร์ 5131601201
น.ส.จุรีย์พร จันทร์แก้ว 5131601025 นายชัชชัย รักสันติสุข 5131601038
น.ส.ผาณิตตา ศรีวงษ์ 5131601126 นายนเรศ วงศ์ชัยพาณิชย์ 5131601097
น.ส.อมรรัตน์ จิรนนท์วงศ์ 5131601208 น.ส.จุรีรัตน์ อูปซาง 5131205227
นายเจษฎา เอื้อเฟื้อ 5131601027

“ประพันธ์”ซัด”เอ็นบีที”ซ่องสุมทาสแม้ว เจตนาเชือดพันธมิตรฯ

“ประพันธ์ คูณมี”สุดทน “เอ็นบีที”นำเสนอข่าวบิดเบือน ซ่องสุมสมุนคนรัก”แม้ว”รวมหัวโจมตีพันธมิตรฯ เผยถึงเวลาการเมืองใหม่ จะไม่เตะหมูเข้าปากหมานักการเมืองชั่ว ย้ำชัดพันธมิตรฯ พร้อมจับมือประชาชนขจัดนักการเมืองกุ๊ย
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายประพันธ์ คูณมี ปราศรัย
วันที่ 29 สิงหาคม 2551 เวลาประมาณ 23.00 น.นายประพันธ์ คูณมี อดีตสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ขึ้นเวทีปราศรัยว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นสองสามวันที่ผ่านมา ทำให้ประชาชนเกิดความกังวลใจและไม่มั่นใจในการต่อสู้ ถูกใส่ร้ายป้ายสี กล่าวหาการต่อสู้ของพันธมิตรฯ ไม่มีความชอบธรรม เราต้องไม่ตื่นเต้นและหวั่นไหวกับปัญหาที่เกิดขึ้น พร้อมกันนี้ต้องมีสติ อย่างสนใจเสียงเล่าลือและใส่ร้าย ต้องหนักแน่นในการต่อสู้
นายประพันธ์ กล่าวว่า เราไม่ได้ต่อสู้กับนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี เพียงคนเดียว แต่ยังต่อสู้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ต้องกุมเป้าหมายให้มั่นว่าเราสู้กับใคร เพราะกระบวนที่ออกมาต่อสู้กับพันธมิตรฯ วันนี้ ไม่ได้ออกมาเพราะรักที่ตัวนายสมัคร ออกมาสู้ก็เพราะยังหาคนที่จะมาแทนนายสมัคร ไม่ได้ สื่อมวลชนก็เช่นกัน ถูกครอบงำจากรัฐบาล โจมตีใส่ร้ายป้ายสี หวังให้พันธมิตรฯ เป็นผู้ร้ายในสายตาผู้อื่น
จากนั้น นายประพันธ์ ได้ชำแหละให้เห็นถึงความเลวร้ายในการบิดเบือนข่าวสารของรัฐบาล โดยกล่าวเตือนไปยังสื่อมวลชน โดยเฉพาะสถานทีโทรทัศฯเอ็นบีที (ช่อง 11) ให้วางตัวเป็นกลาง อย่าตกเป็นเครื่องให้กับรัฐบาลใช้โจมตีฝ่ายตรงข้าม มิหนำซ้ำอย่าเปิดช่องให้ถูกแทรกแซง ปล่อยให้รายการความจริงวันนี้ออกอากาศ เพราะข้อมูลที่สามเกลอนำมาพูดนั้นก็โกหกแทบทั้งสิ้น
นอกจากความเลวร้ายที่กล่าวมาข้างต้น เอ็นบีทียังกลายเป็นที่ซ่องสุมของกลุ่มคนรัก พ.ต.ท.ทักษิณ ทั้งผู้ประกาศข่าว อดีตก็เคยทำงานอยู่ที่ไอทีวี สื่อที่ถูก พ.ต.ท.ทักษิณ ครอบงำ ขณะที่ผู้ประกาศบางคน ชัดเจนว่าได้รับอานิสงส์จากนายจักรภพ เพ็ญแข ดึงให้มาทำงาน เอ็นบีทีจึงไม่ต่างอะไรกับไอทีวีเดิม การนำเสนอข่าวบิดเบือน โจมตีพันธมิตรฯ ถูกครอบงำจากฝ่ายรัฐ ล่าสุดก็ยัดเหยียดรายการความจริงวันนี้ออกอากาศ โดยถอดรายการของผู้ผลิตเดิมออก ถามว่า นี่คือการครองงำสื่อของรัฐใช่หรือไม่
ในช่วงท้าย นายประพันธ์ ชี้ทางเดินต่อไปของพันธมิตรฯ การเดินแต่ละก้าวต้องรอบคอบ อย่าปล่อยให้เกิดความผิดพลาดขึ้นในบ้านเมืองอีก อย่าตกหลุมพรางให้สื่อมวลชน โดยเฉพาะเอ็นบีทีนำไปขยายผลเพื่อเหยียบย้ำเรา ต้องแยกแยะและพิจารณาให้ถี่ถ้วน ใครยืนอยู่ข้างพันธมิตรฯ หรือข้างรัฐบาล ทั้งนี้ยอมรับข้าราชการทั้งหมดไม่ได้รักนายสมัคร ทั้งหมด ยังมีส่วนหนึ่งที่รักและเข้าใจพันธมิตรฯ เราต้องเห็นใจและเข้าใจข้าราชการเหล่านั้นด้วย
นายประพันธ์ กล่าวด้วยว่า เราต้องต่อสู้อย่างสันติ ชนะแล้วก็อย่าไปข่มเหงคนอื่น ต้องชนะด้วยใจ อีกทั้งต้องร่วมกันเปลี่ยนแปลงการเมืองใหม่ ต้องร่วมกันต่อสู้เพื่อเรียกร้องสิทธิ์ที่แท้จริงของประชาชน ทำให้การเมืองเป็นการเมืองภาคประชาชนที่แท้จริง อย่าปล่อยให้นักการเมืองกุ๋ยเข้ามาบริหารบ้านเมือง ยอมรับกำลังเตะหมูเข้าปากหมา นักการเมืองมักจะฉวยโอกาสหยิบผลประโยชน์ภายหลังการต่อสู้ของภาคประชาชนเสมอ เช่น เหตุการณ์ 14 ต.ค.16 ต่อเนื่องเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ 35 ฉะนั้นต้องสร้างการเมืองของประชาชนที่แท้จริงขึ้น ต่อไปนี้พลังของพันธมิตรฯ จะต้องยืนอยู่คู่แผ่นดิน จะไม่ปล่อยให้นักการเมืองชั่วมาทำปู้ยี่ปู้ยำประเทศอีกต่อไป

เครดิต:http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9510000102525

จัดทำโดย
นายเจษฎา เอื้อเฟื้อ 5131601027 น.ส.เสาวรส รักแก้ว 5131202087
น.ส.รจนา วงษารัตน์ 4931601817 นายอนุชา พวงมณี 5131601205
น.ส.สุปราณี สุริยะจันทร์ 5131601201 น.ส.จุรีย์พร จันทร์แก้ว 5131601025
นายชัชชัย รักสันติสุข 5131601038 น.ส.ผาณิตตา ศรีวงษ์ 5131601126
นายนเรศ วงศ์ชัยพาณิชย์ 5131601097 น.ส.อมรรัตน์ จิรนนท์วงศ์ 5131601208
น.ส.จุรีรัตน์ อูปซาง 5131205227

“กองทัพธรรม”หมายหัวฟ้องโจรกากีทำเสียทรัพย์16ล้านบาท

“กองทัพธรรม”เตรียมฟ้องร้องเรียกค่าเสียหาย โจรสีกากี ใช้กำลังทำร้ายประชาชนไม่พอ ยังมือไวฉกทรัพย์สินและทำลายข้าวของเสียหายรวมมูลค่ากว่า 16ล้านบาท จี้เอาผิดคนสั่ง-คนลงมือ ทั้งแพ่งและอาญา ขณะที่บรรยากาศการชุมนุมทั่วไป ประชาชนยังเดินทางเข้าสมทบจากทั่วประเทศไม่ขาดสาย”
วันนี้(30 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการชุมนุมของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ในทำเนียบรัฐบาล ซึ่งเข้าวันที่ 98 แต่เป็นวันที่ 4 ที่มีการชุมนุมในทำเนียบฯ ผู้ชุมนุมจากทั่วประเทศไทย ยังคงเดินทางมาสบทบการชุมนุมอย่างคับคั่ง และเนื่องจากมวลชนมีมหาศาล ทำให้เริ่มจะประสบกับปัญหาทางสุขภาวะ จากกลิ่นเหม็นของขยะกับหญ้าที่เน่าตาย ประกอบกับสภาพอากาศที่ร้อน ทำให้ขณะนี้ได้มีการขอรับบริจาคแผ่นกระเบื้องไว้ปูนในสนามหญ้า และยังเกิดปัญหาเครื่องขยายเสียงไม่พอกับผู้ชุมนุม
ในขณะที่พื้นที่การชุมนุมของพันธมิตรฯก็ยังกินพื้นที่ทั้งหมดในทำเนียบฯตั้งแต่ ถ.พิษณุโลก ถ.ราชดำเนิน แยกมัฆวานรังสรรค์ ไปจนถึงแยกลานพระบรมรูปทรงม้า ส่วนการซ่อมแซ่มความเสียหายจากกรณีที่ตำรวจเข้ามาสลายการชุมนุมเมือวานนี้ ก็ได้รับการร่วมไม้ร่วมมือจากผู้ชุมนุมเป็นอย่างดี
นายเทียนพุทธ พุทธิพงศ์อโศก ผู้ประสานงานกองทัพธรรม กล่าวว่า หลังจากนี้จะย้ายโรงทานของกองทัพธรรมจากบริเวณถ.ราชดำเนิน เข้ามาอยู่หลังตึกแดงทำเนียบรัฐบาล หลังจากได้เสียหายจากการสลายชุมนุมเมื่อวานนี้จำนวนมาก สรุปเบื้องต้นมีมูลค่าความเสียหายประมาณ 16 ล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่เป็นของอุปโภคบริโภค และเครื่องถ่ายเอกสาร จักรยานยนต์จำนวนหลายคัน รวมทั้งกล้องบันทึกเทปโทรทัศน์ของสถานีโทรทันศ์เอฟเอ็มทีวีของสันติอโศก
“ต่อจากนี้ผมและตัวแทนของกองทัพธรรมจะเข้าไปแจ้งความไว้เป็นหลักฐานที่สน.ดุสิต เพื่อเอาผิดเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ใช้กำลังสลายทั้งในทางอาญาและทางแพ่ง ไม่ว่าจะเป็นเจ้าหน้าที่ในระดับปฏิบัติการหรือในระดับออกคำสั่ง โดยเฉพาะ พล.ต.อำนวย นิ่มมโน ซึ่งใช้โทรโข่งสั่งการเข้าสลาย ตำรวจอาจติดคุกไม่พอแต่จะต้องชดใช้ค่าเสียหายด้วย” นายเทียนพุทธ กล่าว
ส่วนบรรยากาศผู้ชุมนุมนอกทำเนียบรัฐบาล นอกจากที่เวทีตรงเชิงสะพานมัฆวานรังสรรค์ ยังมีการรวมกลุ่มย่อยๆ ตรงบริเวณด่านสกัดตามถนนต่างๆ ทั้ง ถ.พิษณุโลก ถ.ราชดำเนิน และมีการร้องเพลงปลุกขวัญกำลังใจ ทั้งกลุ่มอาสาหญิงที่ทำหน้าที่เฝ้าประตู 4 ทำเนียบรัฐบาล กลุ่มอาสาสมัครพยาบาล
เมื่อเวลา 11.30 น. มีรายงานข่าวว่า แกนนำพันธมิตรฯ จะเปิดประตูเข้าสู่ตึกไทยคู่ฟ้าเพื่อใช้พื้นที่ในการประชุมหารือ ซึ่งในระหว่างนี้กำลังอยู่ในช่วงส่งอาสาสมัครเข้าไปตรวจสอบและจัดพื้นที่
เครดิต:http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9510000102630

จัดทำโดย
น.ส.เสาวรส รักแก้ว 5131202087 น.ส.รจนา วงษารัตน์ 4931601817
นายอนุชา พวงมณี 5131601205 น.ส.สุปราณี สุริยะจันทร์ 5131601201
นายเจษฎา เอื้อเฟื้อ 5131601027 น.ส.จุรีย์พร จันทร์แก้ว 5131601025
นายชัชชัย รักสันติสุข 5131601038 นายนเรศ วงศ์ชัยพาณิชย์ 5131601097
น.ส.อมรรัตน์ จิรนนท์วงศ์ 5131601208 น.ส.จุรีรัตน์ อูปซาง 5131205227
น.ส.ผาณิตตา ศรีวงษ์ 5131601126

วันศุกร์ที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2551

*อำมหิตผิดมนุษย์! ตร.ตีคนแก่ สกัดห้ามเข้าสมทบพันธมิตรฯที่ทำเนียบฯ

ล่าสุดเมื่อเวลา12.00น. ตำรวจเข้าสกัดไม่ยอมให้ประชาชนผ่านเข้าร่วมชุมนุมในทำเนียบฯด้านแยกลานพระรูปฯ จนเกิดเหตุปะทะ มีคนแก่ถูกตีได้รับบาดเจ็บหลายราย -แกนนำพันธมิตรฯ ผลัดเปลี่ยนขึ้นเวทีจัดระเบียบผู้ชุมนุมให้อยู่ในความสงบและตื่นตัวรับมือหากถูกสลายการชุมนุม หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจหมายจะฉวยโอกาสขณะเข้ามาติดหมายศาลเข้าชาร์จ
วันนี้ (29 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานจากเวทีชั่วคราวพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่ทำเนียบรัฐบาลว่า เมื่อเวลา 10.40 น. พล.ต.จำลอง ศรีเมือง และนายสมศักดิ์ โกศัยสุข แกนนำพันธมิตรฯ ได้ขึ้นเวทีประกาศเรียกให้ผู้ชุมนุมเข้ามาในพื้นที่ทำเนียบรัฐบาล หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าพนักงานบังคับคดีเข้าปิดหมายศาล พร้อมกับนำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจนับร้อยนายเข้ากระจายตามประตูต่างๆ
พล.ต.จำลอง กล่าวบนเวทีผ่านเครื่องขยายเสียงโดยพยายามจัดรูปการชุมนุมให้ประชาชนเข้ามานั่งรวมกันจนเต็มพื้นที่หน้าตึกไทยคู่ฟ้า พร้อมกับบอกยามทุกประตูว่าถ้าไม่สามารถจะยั้งตำรวจได้ อย่าไปตีรันฟันแทง ให้ถอยออกมารวมกันที่หน้าตึกไทยคู่ฟ้า “ตำรวจพยายามเข้ามาหลายประตู ถ้าเห็นว่ากำลังเขามากกว่ามีเขามีกระบองและโล่ห์ ให้ถอยมาหน้าตึกไทยคู่ฟ้า เราพร้อมจะรับมือกับตำรวจแล้ว”
อย่างไรก็ตาม จนถึงขณะนี้เวลา 11.00 น. แกนนำพันธมิตรฯ ยังคงผลัดเปลี่ยนกันขึ้นเวที จัดระเบียบผู้ชุมนุม และเรียกร้องให้เข้ามาภายในทำเนียบฯ มากที่สุด อย่าอยู่กันแต่โดยรอบนอกทำเนียบฯ
ด้าน นายสมศักดิ์ กล่าวว่า สหภาพแรงงานฯ ให้นัดหยุดงานกันให้หมด มากขึ้นๆ แล้วเข้ามารวมกันที่ทำเนียบฯ รวมทั้งประชาชนที่ยังอยู่บ้านให้ออกมารวมตัวกันได้แล้ว อย่างไรก็ตาม อย่าเกรงกลัวอะไรทั้งสิ้น เรามาต่อสู้เพื่อสถานบันที่เราเคารพและเพื่ออำนาจอธิบไตยของชาติ รวมทั้งสู้เพื่อเอาทรัพย์สินของชาติที่มันโกงกินไปกลับคืนมา เราทำหน้าที่รัฐบาล แต่รัฐบาลมันทำหน้าที่โจร เราทุกคนต้องพึ่งพาตัวเอง ไม่ต้องไปพึ่งใคร
เมื่อเวลา 11.36 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้พยายามที่จะแหวกเข้ามาในทำเนียบฯ ทางด้านประตู 7 ทำให้นายสมศักดิ์ขึ้นเวทีขอเพิ่มการ์ดอาสาเข้าตรึงกำลังอีกจำนวนหนึ่ง เมื่อเวลา 11.54 น. พล.ต.จำลอง ขึ้นเวทีชั่วคราวฯอีกครั้ง พร้อมประกาศว่าขณะนี้เวทีพันธมิตรฯ ที่สะพานมัฆวานรังสรรค์ถูกตำรวจเข้าไปสลายแล้ว เขาสลายพันธมิตรฯ ที่สะพานมัฆวานฯ แล้ว โดยใช้แก๊สน้ำตา ฉะนั้นขอให้พี่น้องออกมาได้แล้วมารวมตัวกันที่ทำเนียบฯ และให้พี่น้องที่มัฆวานฯ เข้ามารวมกันที่ทำเนียบฯ
พล.ต.จำลอง กล่าวต่อว่า ตามข่าวพวกที่เฝ้าเต็นท์บอกว่า ตำรวจโหดเหี้ยมมาก เอาเหล็กตีเสาเต็นท์พังหมด แล้วโยนของเราทิ้งคลองหมด แม้กระทั่งโต๊ะเก้าอี้ที่ใช้ทำงาน อย่างไรก็ตาม พี่น้องไม่ต้องตกใจ เขาโหดเหี้ยมกับข้าวของ ยังไม่ได้โหดเหี้ยมกับใคร เขาคงยังรักษาวินัยของเขาที่ไม่ทำร้ายประชาชน ของเสียเสียไป เสร็จงานเมื่อไหร่ฟ้องเรียกค่าเสียหายคืนเมื่อนั้น
เมื่อเวลาประมาณ 12.00น. เกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าทำร้ายประชาชนจำนวนหนึ่งซึ่งมีแต่ผู้หญิงและคนแก่ ที่บริเวณแยกลานพระบรมรูปทรงม้า ขณะที่ประชาชนเหล่านั้นเดินทางเข้ามาสมทบกับพันธมิตรฯในทำเนียบฯ แต่เจ้าหน้าที่เข้าขวางไม่ยอมให้เข้า เป็นเหตุให้มีประชาชนบาดเจ็บหลายราย นายสาวิทย์ แก้วหวาน เลขาธิการสมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ (สรส) กล่าาวว่า สรส.ได้นัดหารือมาตรการตอบโต้รัฐบาลขั้นเด็ดขาดที่นี่ วันนี้ รัฐบาลอาจจะชนะในการสลายการชุมนุมที่นี่ แต่ข้างนอกเขาไม่อาจชนะเราได้ วันนี้ รถไฟได้หยุดงานแล้ว 100 % และรัฐวสิหากิจอื่นๆ กำลังจะตามมา เราจะตอบโต้รัฐบาลรุนแรงมากขึ้น "พี่น้องรัฐวิสาหกิจของให้ฟังเสียงสาวิทย์ แก้วหวาน ลขาธิการสมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ ขอให้พวกท่านจงปฏิบัติการขั้นสูงสุด ตามที่นัดหมายกันไว้ เขาอาจจะสลายพวกเราในที่ได้ แต่สลายจิตวิญญาณการต่อสู้ของเราไม่ได้"นายสาวิทย์กล่าว
เมื่อเวลา 12.30น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จนถึงขณะนี้ประชาชนอีกประมาณกว่า500 คนยังไม่สามารถฝ่าด่านตำรวจจากแยกพระบรมรูปทรงม้า มายังทำเนียบรัฐบาลได้ เนื่องจากกำลังตำรวจมีมากกว่า ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่ประชาชนพยายามผลักดันฝ่าตำรวจจนเกิดเหตุปะทะกันนั้น ได้มีรถยนต์BMW ป้ายแดง ที่ขับตรงมายังลานพระบรมรูปฯ ได้พุ่งรถเข้าหาตำรวจและจอดขวางไม่ได้ทำร้ายประชาชน พร้อมกับเปิดกระจกรถตระโกนด่าทอตำรวจ ก่อนจะหักรถเลี้ยวกลับไปจอดลานพระบรมรูปฯแล้วลงมาร่วมกับประชาชน
เมื่อเวลา 13.00น. เจ้าหน้าที่ตำรวจสกัดกั้นไม่ยอมให้รถพยาบาลเข้าไปดูแลประชาชนที่บาดเจ็บจากการถูกตำรวจตีที่สะพานมัฆวานฯ เมื่อเวลาประมาณ13.20น. สมาชิกวุฒิสภากว่า10คน เดินทางเข้าให้กำลังใจพันธมิตรฯที่ทำเนียบฯ พร้อมกับขึ้นเวทีปราศรัย ประนามการกระทำของตำรวจที่ใช้กำลังเข้าตีประชาชนมือเปล่าจนบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา13.45น. ที่ลานพระบรมรูปทรงม้า ได้มีประชาชนทะยอยมารวมพลมากขึ้นเรื่อยๆร่วมพันคนแล้ว แต่ยังไม่สามารถฝ่าด่านกั้นตำรวจเข้ามารวมที่ทำเนียบรัฐบาลได้ ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ได้มีชายฉกรรจ์อายุไม่เกิน 30ปี ใส่แจ๊คเก็ตดำ สวมหมวกดำและแว่นตาดำ เข้าไปยืนถ่ายวิดีโอผู้ชุมนุมที่ลานพระบรมรูปฯ และเมื่อมีผู้ชุมนุมเห็นก็ได้ตระโกนบอกว่ามีตำรวจสันติบาลเข้ามาให้จับไว้ ชายคนดังกล่าวก็ได้วิ่งหนีไป
อย่างไรก็ตาม ภายหลังหนีออกมาได้ ผู้สื่อข่าวได้เข้าไปสอบถาม ชายคนดังกล่าว อ้างว่า เป็นเจ้าหน้าที่จากกรมการปกครอง โดยนายใช้ให้มาบันทึกภาพเอาไว้
เมื่อเวลา 14.04น. แกนนำพันธมิตรฯ ขอกำลังอาสาสมัครเพิ่ม เพื่อเป็นผู้นำเอาประชาชนที่ติดค้างอยู่บริเวณด่านตำรวจให้เข้ามาในทำเนียบรัฐบาลได้ พร้อมขอรับบริจาคหมวกกันน๊อค และเวชภัณฑ์ทำแผลจำนวนมาก โดยยื่นความจำนงค์บริจาคได้ที่ 089-8921065 เมื่อเวลาประมาณ 14.04น. ช่างภาพเอเอสทีวี ขึ้นเวทีเผยนาทีโหด เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าสลายการชุมนุมของประชาชนที่สะพานมัฆวานรังสรรค์ ทั้งนี้ช่างภาพเอเอสทีวี ระบุว่า ตนเห็นกับตาว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ารุมตีประชาชนมือเปล่า จนกองลงไปกับพื้น และตนก็บันทึกเทปไว้ได้ทัน และเมื่อตำรวจเห็นตนถ่าย ก็รีบเข้ามาห้ามไม่ยอมให้ถ่ายภาพไว้ และเมื่อตนแสดงตัวว่าเป็นสื่อมวลชนกำลังทำหน้าที่ ตำรวจก็ยังไม่ยอมให้ถ่ายภาพ จึงเกิดการยื้อกันและตำรวจได้ใช้กระบองตีตนเอง เมื่อเวลาประมาณ 14.10น. มีรายงานข่าวว่า พันธมิตรฯสงขลาและภูเก็ตได้เข้าปิดสนามบินแล้ว ขณะที่สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจทั่วประเทศ ทยอยลางานเข้าสมทบที่ทำเนียบฯเพิ่มมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม นายสมศักดิ์ ได้ประกาศให้ประชาชนที่อยู่บริเวณสะพานมัฆวานฯ เข้าไปช่วยเหลือญาติธรรมสันติอโศกที่มีแต่ผู้หญิงและคนแก่ ซึ่งถูกกักตัวไว้ที่ริมรั้วทำเนียบฯ เมื่อเวลา14.40น. ผู้สื่อข่าวรายงานวา พันธมิตรฯจำนวน 3พันคน ได้เคลื่อนพลจากประตู 7 ผ่านไปทางคลองผดุงกรุงเกษม และเข้ากดดันตำรวจที่เวทีมัฆวานฯจนสามารถยึดพื้นที่ไว้ได้ จากนั้นได้ตรึงกำลังไว้ที่เวทีมัฆวานฯประมาณ 2พันคน ขณะที่อีก1พันคน ได้เคลื่อนต่อไปยังแยกมิสกวัน และสามารถยึดพื้นที่ไว้ได้แล้วเช่นกัน เมื่อเวลา 14.48น. แกนนำพันธมิตรฯ ยังคงสับเปลี่ยนหมุนเวียนกันขึ้นเวทีปราศรัยอย่างต่อเนื่อง ให้กำลังใจพี่น้องประชาชนที่มาร่วมชุมนุม พร้อมเรียกร้องให้ออกมาร่วมแสดงพลังด้วยกัน เมื่อเวลาประมาณ 14.50น. พันธมิตรฯ ได้ยึดพื้นที่สะพานมัฆวานรังสรรค์ คืนได้แล้ว มีรายงานข่าวแจ้งว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวณชายแดนประมาณ 4พันนาย ได้เข้าตรึงกำลังอยู่ในสนามม้านางเลิ้ง


จัดทำโดย
น.ส.เสาวรส รักแก้ว 5131202087 น.ส.รจนา วงษารัตน์ 4931601817
นายอนุชา พวงมณี 5131601205 น.ส.สุปราณี สุริยะจันทร์ 5131601201
นายเจษฎา เอื้อเฟื้อ 5131601027 น.ส.จุรีย์พร จันทร์แก้ว 5131601025
นายชัชชัย รักสันติสุข 5131601038 น.ส.ผาณิตตา ศรีวงษ์ 5131601126
นายนเรศ วงศ์ชัยพาณิชย์ 5131601097 น.ส.อมรรัตน์ จิรนนท์วงศ์ 5131601208
น.ส.จุรีรัตน์ อูปซาง 5131205227

รวบรวมคดีทักษิณ

คดีแรก คือ คดีการเลี่ยงภาษีของ บรรณพจน์ ดามาพงศ์ กับ คุณ หญิงพจมาน ชินวัตร และนาง กาญจนาภา หงษ์เหิน ที่ร่วมกันกระทำความผิดอาญาฐานมีเจตนาร่วมกัน กระทำความผิด เพื่อหลีกเลี่ยงภาษี จากการซื้อขายหุ้น บริษัท ชินวัตร คอมพิวเตอร์ แอนด์ คอมมิวนิเค ชั่นส์ จำกัด (มหาชน) จำนวน 4.5 ล้านหุ้น มูลค่า 738 ล้านบาท
สองคดีการซื้อขายที่ดินย่านถนนรัชดาภิเษก ระหว่างกองทุนเพื่อการฟื้นฟู และพัฒนาระบบสถาบันการเงินกับคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภริยา พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี
นอกจากนี้ยังมีคดีที่อยู่ในชั้นของการตั้งอนุกรรมการไต่สวน เตรียรส่งให้อัยการสูงสุดสั่งฟ้องรวม 10 คดีด้วยกัน....
1.โครงการจัดจ้างออกแบบและปรับเปลี่ยนสายพานลำเลียงกระเป๋า และสัมภาระผู้โดยสารและเครื่องตรวจสอบวัตถุระเบิด หรือ ซีทีเอ็กซ์ 9000 ในสนามบินสุวรรณภูมิ
2.โครงการจัดซื้อพันธุ์กล้ายางพารา 90 ล้านต้น ของกระทรวงเกษตร และสหกรณ์
3.โครงการออกสลากพิเศษแบบเลขท้าย 3 ตัว และ 2 ตัว ขอสำนักงาน สลากกินแบ่งรัฐบาล
4.โครงการก่อสร้างระบบจ่ายไฟฟ้าและเครือข่ายท่อร้อยสายไฟท่า อากาศยานสุวรรณภูมิ
5.กรณีการจัดซื้อ รถ-เรือดับเพลิงของกรุงเทพมหานคร
6.คดีธนาคารแห่งประเทศไทยร้องทุกข์กล่าวโทษให้ดำเนินคดีคดีกับผู้บริหารธนาคารกรุงไทยกับพวกกรณีให้สินเชื่อกับบริษัทในกลุ่มกฤษดานคร จำกัด (มหาชน) จำนวน 9.9 พันล้านบาท
7.คดีการอนุมติให้ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย หรือเอ็กซิมแบงก์ ปล่อยกู้วงเงิน 4 พันล้านบาทให้รัฐบาลพม่า
8.สัญญาโครงการก่อสร้างระบบขนส่งทางรถไฟเชื่อมท่าอากาศยานสุวรรณภูมิและสถานีรับ-ส่งผู้โดยสารอากาศยานในเมืองของการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) จากสถานีมักกะสันไปสนามบินสุวรรณภูมิ หรือ โครงการแอร์พอร์ตลิงก์ ระยะทาง 28 กิโลเมตร มูลค่าประมาณ2.5 หมื่นล้านบาท
9.โครงการบ้านเอื้ออาทร ในโครงของบริษัทพาสทีญ่า ไทย จำกัด
10.ครม.มีมติให้ออก พ.ร.ก.แก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.พิกัด อัตราภาษีสรรพสามิต พ.ศ.2527 ที่กำหนดให้จัดเก็บภาษีสรรพสามิตกับผู้รับสัมปทานโทรคมนาคม แทนการจ่ายส่วนแบ่งรายได้ให้แก่รัฐ และยังมี โครงการการจัดซื้อวัสดุอุปกรณ์ของบริษัทห้องปฎิบัติการกลางตรวจสอบ ผลิตภัณฑ์อาหารจำกัด (เซ็นทรัลเล็บ) มูลค่า 1.9 พันล้านบาท ที่อยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริง
ล่าสุดศาลอาญากรุงเทพใต้ มีคำสั่งอนุมัติออกจับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ และคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภรรยา ผู้ถูกกล่าวหาคดีกระทำผิดตาม พรบ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ.2535 มีพฤติการณ์ปกปิดโครงสร้างผู้ถือหุ้น บริษัท เอสซีแอสเซท ตามคำร้องของพนักงานสอบสวน กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ที่ยื่นคำร้องขอออกหมายจับเมื่อวันที่ 23 ส.ค. ที่ผ่านมา

เครดิต : http://www.kanmuang.org/NT/data/12/0075-1.html
โดย น.ส.ผาณิตตา ศรีวงษ์ 5131601126 น.ส.อมรรัตน์ จิรนนท์วงศ์ 5131601208
นายอนุชา พวงมณี 5131601205น.ส.เสาวรส รักแก้ว 5131202087
น.ส.รจนา วงษารัตน์ 4931601817 น.ส.สุปราณี สุริยะจันทร์ 5131601201
นายเจษฎา เอื้อเฟื้อ 5131601027 น.ส.จุรีย์พร จันทร์แก้ว 5131601025
นายชัชชัย รักสันติสุข 5131601038 นายนเรศ วงศ์ชัยพาณิชย์ 5131601097
น.ส.จุรีรัตน์ อูปซาง 5131205227

อีกมุมของคนไทย

กลุ่มคนรักทักษิณ รวบไปรษณียบัตรส่งอังกฤษให้แม้วลี้ภัย
นายพรหมศักดิ์ แสนโพธิ์ ประธานสมาพันธ์ประชาชนรากหญ้าเครือข่ายภาคเหนือ ผู้ประสานงานกลุ่มคนรักทักษิณ จ.เชียงใหม่ เปิดเผยว่า ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการรวบรวมไปรษณียบัตรจากประชาชนในพื้นที่ อ.สันกำแพง และ อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ย เพื่อขอให้ทางการอังกฤษอนุญาตให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และครอบครัว ลี้ภัยอยู่ในประเทศได้ เนื่องจากเห็นว่า พ.ต.ท.ทักษิณ อยู่ในประเทศอังกฤษจะปลอดภัยกว่าเดินทางกลับประเทศไทย
ทั้งนี้ กลุ่มคนรักทักษิณ จ.เชียงใหม่ จะรวบรวมไปรษณียบัตรจากประชาชนให้ได้ 10,000 ใบ ส่งให้กับเอกอัครราชทูตอังกฤษประจำประเทศไทย และส่งถึงนายเตช บุนนาค รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของไทย ให้ส่งไปยังสถานทูตอังกฤษ อีกทางหนึ่ง ในวันพุธที่ 27 สิงหาคมที่ผ่านมา...

เครดิต : http://news.sanook.com/politic/politic_299632.php
โดย นายเจษฎา เอื้อเฟื้อ 5131601027 น.ส.เสาวรส รักแก้ว 5131202087
น.ส.รจนา วงษารัตน์ 4931601817 นายอนุชา พวงมณี 5131601205
น.ส.สุปราณี สุริยะจันทร์ 5131601201 น.ส.จุรีย์พร จันทร์แก้ว 5131601025
นายชัชชัย รักสันติสุข 5131601038 น.ส.ผาณิตตา ศรีวงษ์ 5131601126
นายนเรศ วงศ์ชัยพาณิชย์ 5131601097 น.ส.อมรรัตน์ จิรนนท์วงศ์ 5131601208
น.ส.จุรีรัตน์ อูปซาง 5131205227

วันพฤหัสบดีที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2551

ศาลแพ่งมีคำสั่งพันธมิตรออกจากธรรมเนียบ



ความคืบหน้าล่าสุด ( 27 สค. 51 เวลา 22.42 น.) ศาลแพ่งได้อ่านคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวคดีที่เจ้าหน้าที่ทำเนียบรัฐบาลฟ้องจำเลยทั้ง 6 ว่า ขอสั่งให้จำเลยทั้ง 6 พาพวกผู้ชุมนุมออกจากบริเวณทำเนียบรัฐบาล และตัวอาคาร พร้อมทั้งรื้อถอนเวที สิ่งปลูกสร้างที่กีดขวาง และเปิดถนนพิษณุโลก ถนนราชดำเนินนอกให้นายกรัฐมนตรี คณะรัฐมนตรี และข้าราชการเข้าออกทำเนียบโดยสะดวก และให้มีผลทันที ล่าสุดทางแกนนำฯออกมายอมรับการตัดสินของศาล ในส่วนของแกนนำพันธมิตรรุ่น 2 ประกาศบนเวทีว่าจะปักหลักต่อไป เพื่อขอใช้สิทธิ์ในการอุทรณ์
อย่างไรก็ตาม หลังศาลแพ่งมีคำสั่งออกมาแกนนำพันธมิตรฯ ได้จัดเสริมกำลังอาสาสมัคร ตรึงกำลังเฝ้าทางเข้า - ออก โดยมีการนำอาสาสมัคร โดยเฉพาะผู้หญิง กว่า 200 คนมายืนเป็นกำแพงมนุษย์ นอกจากนี้ กลุ่มผู้ประสานงานการชุมนุมยังได้ขอร้องไม่ให้ผู้ชุมนุมเดินทางกลับ และขอปิดทางเข้าออกบริเวณถนนพิษณุโลก ด้านหน้าทำเนียบ โดยอ้างว่าหากผู้ชุมนุมจะเดินทางกลับก็หมายถึงความพ่ายแพ้ของการชุมนุม ด้าน พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร. จะนำหมายจับไปเจรจากับแกนนำทั้ง 9 ด้วยตัวเอง.
โดย น.ส.สุปราณี สุริยะจันทร์ 5131601201 น.ส.เสาวรส รักแก้ว 5131202087
น.ส.ผาณิตตา ศรีวงษ์ 5131601126 น.ส.อมรรัตน์ จิรนนท์วงศ์ 5131601208
นายอนุชา พวงมณี 5131601205 น.ส.รจนา วงษารัตน์ 4931601817
นายเจษฎา เอื้อเฟื้อ 5131601027 นายชัชชัย รักสันติสุข 5131601038
นายนเรศ วงศ์ชัยพาณิชย์ 5131601097 น.ส.จุรีรัตน์ อูปซาง 5131205227
น.ส.จุรีย์พร จันทร์แก้ว 5131601025

“สนธิ” ประกาศกร้าว ยึดทำเนียบถึงวันอาทิตย์ มั่นใจชนะแน่!

“สนธิ” ขึ้นเวทีประกาศต่อหน้าผู้ชุมนุม แฉ ตร.เอาความเท็จไปแจ้งศาลให้ออกหมายจับแกนนำ อัดกลับ “หอกหักหมัก” และพวกคือ “กบฏตัวจริง” หวังล้มล้าง รธน.แบ่งแยกราชอาณาจักร แถมยังโกหก พระบรมฯจะใช้พื้นที่ทำเนียบ 30 ส.ค.นี้ ปลุกปชช.สู้ไม่ถอย ลั่นยึดทำเนียบถึงวันอาทิตย์นี้ เชื่อชัยชนะเป็นของ ปชช.แน่
วันนี้ (28 ส.ค.) เมื่อเวลา 10.20 น. นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรฯ ได้ขึ้นเวทีอ่านจดหมายของ ดร.ปราโมทย์ นาครทรรพ ที่เขียนเพื่อให้กำลังแกนนำพันธมิตรฯ และผู้ชุมนุมให้ยืนหยัดสู้ต่อไปอย่าได้เกรงกลัวรัฐบาลหุ่นเชิด จากนั้น นายสนธิ กล่าวปราศรัยต่อผู้ชุมนุมว่า เมื่อวานนี้ (27 ส.ค.) ตำรวจได้เอาความเท็จไปขอหมายศาลอาญามาจับแกนนำพันธมิตรฯ โดยอ้างกฎหมายมาตรา 113 ว่าผู้ใดใช้กำลังประทุษร้าย ล้มล้างหรือเปลี่ยนแปลงรัฐธรรมนูญให้ถือเป็นกบฏ แต่ที่ผ่านมาตั้งแต่เราชุมนุมเมื่อวันที่ 25 พ.ค.เราออกมาต่อต้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เราออกมาปกป้องรัฐธรรมนูญ แล้วมี นปก.มาประทุษร้ายเรา อย่างนี้พวกมันต้องการล้มล้างรัฐธรรมนูญใช่ไหม แล้วตำรวจทำ อะไร ส.ส.พรรคพลังประชาชนทั้งพรรคต้องการแก้รัฐธรรมนูญ ล้มล้างรัฐธรรมนูญ ตำรวจทำอะไร
2.ตำรวจยังอ้างมาตรา 11 โดยกล่าวหาว่าเราต้องการล้มล้างอำนาจนิติบัญญัติ อำนาจบริหาร และอำนาจตุลาการ หรือใช้อำนาจดังกล่าวไม่ได้ พี่น้องดูว่า ขณะนี้ ส.ส.ยังมีการประชุมสภาอยู่ ยังแต่งตั้งตำรวจ ทหารได้ ศาลยังปฏิบัติหน้าที่ออกคำสั่งได้ตามปกติ กล่าวหาเราไปล้มล้างได้อย่างไร
3.กล่าวหาเราว่าล้มล้างแบ่งแยกราชอาณาจักรถือเป็นกบฏ ใครกันแน่ที่ยกเขาพระวิหารให้เขมร ตำรวจต้องไปขอหมายจับนายสมัคร สมัครคือกบฏในราชอาณาจักร นายสนธิ กล่าวต่อว่า พอเป็นนักการเมือง เป็นรัฐบาล ถือว่าเป็นรัฐ ตัวเองชั่วเน่าเหม็นล้มล้างรัฐธรรมนูญ ศาลรัฐธรรมนูญพิพากษาว่าแถลงการณ์ที่ทำร่วมกับเขมร ขัดรัฐธรรมนูญเพราะต้องผ่านสภา ดังนั้น ถือเป็นโมฆะ มันก็ไม่ได้ทำอะไรเลย ทั้งที่จริงต้องแจ้งไปเขมร ให้ยูเนสโกรู้ว่าใครกันแน่ที่ล้มล้างเปลี่ยนแปลงรัฐธรรมนูญ ไอ้หอกหัก ยังสะเออะเอาตำรวจโง่ๆ ขอหมายศาลมาจับแกนนำ “เมื่อ คมช.ปฏิวัติ พ.ต.ท.ทักษิณ มีอยู่ 4 ข้อ แต่วันนี้นายสมัครทำเกิน 6-7 ข้ออย่างหน้าด้าน ไม่เกรงกลัวฟ้าดิน แล้วการที่ พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ บอกว่าขอให้เราออกจาทำเนียบเนื่องจากพระบรมฯ จะเสด็จฯ มาพื้นที่ในวันที่ 30 ส.ค.นี้ ไปเช็กกองราชเลขาฯ แล้ว สมเด็จพระบรมฯ จะไม่ใช้ทำเนียบวันที่ 30 ส.ค.นี้ มุกนี้มันใช้ได้เฉพาะ นปก. ใช้กับสังคมอุดมปัญญาแบบเราไม่ได้ วันนี้วันพฤหัสฯ อย่าหาว่าเราขอเพิ่มเติมเลย เราอยู่ถึงวันอาทิตย์ เราชนะแน่นอน พ่อแม่พี่น้องเรียกคนมาเยอะๆ ตั้งแต่วันนี้พรุ่งนี้ พรุ่งนี้จนถึงวันวันอาทิตย์เราชนะแน่นอน” แกนนำพันธมิตรฯ ย้ำ นอกจากนี้ยังฝากถึง รองโฆษก ตร. พล.ต.ต.สุรพล ทวนทอง ที่ฝากผู้สื่อข่าวมาบอกตนว่าให้คำนึงถึงวุฒิภาวะของการเป็นผู้นำที่เอาผู้หญิงและคนแก่มาเป็นกำแพง อยากถามว่าตนบังคับใครมาเป็นกำแพงหรือเปล่า เขามากันเองทั้งนั้น พ่อท่านอโศกตนก็ไม่ได้บังคับ ท่านมากันเอง ไอ้พวกตำรวจไม่เคยเข้าใจการเมืองภาคประชาชน เพราะเป็นตำรวจหวังลาภยศ เอาใจเจ้านายสถุน เมื่อสักครู่ตนบอกนักข่าวให้ช่วยบอกรองโฆษก ตร.ว่าให้หาองค์ความรู้มากกว่านี้ ยังสู้พี่น้องที่ชุมนุมที่นี่ไม่ได้เลย เป็นนายพลมาได้อย่างไร นี่คือคุณภาพข้าราชการตำรวจชั้นสูง

โดย ผู้จัดการออนไลน์
28 สิงหาคม 2551 12:05 น.

จัดทำโดย
น.ส.จุรีย์พร จันทร์แก้ว 5131601025 น.ส.ผาณิตตา ศรีวงษ์ 5131601126
น.ส.อมรรัตน์ จิรนนท์วงศ์ 5131601208 นายอนุชา พวงมณี 5131601205
น.ส.เสาวรส รักแก้ว 5131202087 น.ส.รจนา วงษารัตน์ 4931601817
น.ส.สุปราณี สุริยะจันทร์ 5131601201 นายเจษฎา เอื้อเฟื้อ 5131601027
นายชัชชัย รักสันติสุข 5131601038 นายนเรศ วงศ์ชัยพาณิชย์ 5131601097
น.ส.จุรีรัตน์ อูปซาง 5131205227

วันจันทร์ที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2551

พันธมิตรฯลั่น"เป่านกหวีด"ล้มรบ.


เมื่อเวลา 18.30 น. วันที่ 24 ส.ค. นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานกลุ่มพันธมิตรฯแถลงถึงยุทธการเป่านกหวีดนัดชุมนุมใหญ่ในวันที่ 26 ส.ค.นี้ว่าขณะนี้กลุ่มแนวร่วมจากต่างจังหวัดทยอยเดินทางเข้า กทม.แล้ว เพื่อเตรียมเข้าร่วมชุมนุมใหญ่ลักษณะกองทัพมด ต้องกราบขออภัยประชาชนในกทม.และผู้ใช้เส้นทางการจราจร เพราะในวันที่ 26 ส.ค.ตั้งแต่ช่วงเช้ามืด หากไม่มีความจำเป็นควรหลีกเลี่ยงเส้นทางถ.ราชดำเนินตลอดทั้งเส้นถ.อู่ทองใน ถ.ราชวิถี ถ.ศรีอยุธยา ถ.พิษณุโลก และถ.สามเสน เนื่องจากอาจมีการปิดการจราจรในบางจุดเพราะเชื่อว่าปริมาณของผู้ที่มาชุมนุมจะมีจำนวนมาก

นายสุริยะใส ระบุว่า การนัดชุมนุมใหญ่ครั้งนี้มีลักษณะพิเศษ 3 ประการ คือ ธำรงจุดมุ่งหมายเดิมในการขับไล่รัฐบาลหุ่นเชิด หากไม่ชนะไม่สลาย และปรับความเข้มข้นในการต่อสู้ตามสถานการณ์ รวมถึงยึดมั่นในแนวทางอหิงสา สันติวิธีและปราศจากอาวุธ สุดท้ายการชุมนุมครั้งนี้จะเป็นอารยะขัดขืนขั้นสูงสุด จะมีมาตรการหลายอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นในสังคมไทย และการนัดชุมนุมใหญ่ยืนยันไม่ใช่เป็นการหาทางลงเพราะพันธมิตรฯ หมดเงิน

นายสาธิต แก้วหวาน เลขาธิการสหพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ (สรส.) แจกแถลงการณ์เข้าร่วมชุมนุมกับกลุ่มพันธมิตรฯ พร้อมแถลงว่า สรส.เรียกร้องให้สหภาพแรงงานทั่วประเทศที่เป็นสมาชิกทั้ง 43 สหภาพจัดชุมนุมใหญ่ ให้ทุกคนลางานวันที่ 26-27 ส.ค.นี้ เพื่อร่วมชุมนุม

เมื่อเวลา 20.30 น. พล.ต.จำลอง ศรีเมือง กล่าวบนเวทีว่า นัดพบประชาชนที่จะไปให้กำลังใจนักเรียนโยธินบูรณะในเวลา 10.00 น. ที่หน้าโรงเรียน แต่อย่าไปกันมาก ให้เก็บแรงไว้ชุมนุมใหญ่วันที่ 26 ส.ค. เวลา 07.00 น. ซึ่งครั้งนี้จะได้ชัยชนะแน่นอน

นายมานพ นพศิริกุล ผอ.โรงเรียนโยธินบูรณะ กล่าวถึงกรณีในวันจันทร์ที่ 25 ส.ค.นี้ พันธมิตรฯ จะเดินทางไปให้กำลังใจนักเรียนที่คัดค้านการรื้อโรงเรียนเพื่อสร้างรัฐสภาแห่งใหม่ ว่า จะไม่ปิดโรงเรียนอย่างแน่นอนและจะรอต้อนรับกลุ่มพันธมิตรฯ ด้วย

ขณะที่ ชมรมคนคิดถึงทักษิณ นำโดย นายอมรินทร์ ผจญยุทธ ประธานชมรมฯ มารวมตัวกันที่ด้านหน้าสถานีรถไฟใต้ดินกำแพงเพชร ตรงข้ามตลาด อ.ต.ก. จตุจักร กทม. เพื่อแสดงพลังสนับสนุน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี มีการตั้งโต๊ะล่ารายชื่อประชาชน รวมทั้งยังได้นำไปรษณียบัตรที่จัดพิมพ์รูปพ.ต.ท.ทักษิณ มาจำหน่ายใบละ 5 บาท

นายอมรินทร์ กล่าวว่างานนี้เปิดให้ประชาชนที่คิดถึงพ.ต.ท.ทักษิณ เขียนความในใจลงบนบิลบอร์ดขนาดใหญ่ก่อนจะส่งไปให้กำลังพ.ต.ท.ทักษิณ ที่ประเทศอังกฤษ รวมทั้งเปิดให้ประชาชนส่งข้อความแสดงความขอบคุณทางไปรษณียบัตรไปที่สถานทูตอังกฤษเพื่อขอให้รัฐบาลอังกฤษดูแล พ.ต.ท.ทักษิณเป็นอย่างดี ชมรมจะไม่เข้าไปยุ่งกับการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ ในวันที่ 26 ส.ค. เพราะไม่ต้องการให้เกิดการเผชิญหน้าและปะทะกัน


เครดิต
http://www.matichon.co.th/khaosod/view_news.php?newsid=TUROd01EVXdNakkxTURnMU1RPT0=&sectionid=TURNek5RPT0=&day=TWpBd09DMHdPQzB5TlE9PQ==


ผู้จัดทำ
น.ส.ผาณิตตา ศรีวงษ์ 5131601126 น.ส.อมรรัตน์ จิรนนท์วงศ์ 5131601208
นายอนุชา พวงมณี 5131601205 น.ส.รจนา วงษารัตน์ 4931601817
นายเจษฎา เอื้อเฟื้อ 5131601027 นายชัชชัย รักสันติสุข 5131601038
นายนเรศ วงศ์ชัยพาณิชย์ 5131601097 น.ส.จุรีรัตน์ อูปซาง 5131205227
น.ส.เสาวรส รักแก้ว 5131202087 น.ส.จุรีย์พร จันทร์แก้ว 5131601025
น.ส.สุปราณี สุริยะจันทร์ 5131601201

วันเสาร์ที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2551

เปิดประกาศจับ “2 นักธุรกิจ” อาชญากรโกงชาติ!

คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น
ประกาศจับพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร

ประกาศจับคุณหญิงพจมาน ชินวัตร


กองทะเบียนประวัติอาชญากร ออกประกาศจับ “ทักษิณ-พจมาน” 2 นักธุรกิจ ตามหมายจับของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ในข้อหาโกงชาติ

วันนี้ (14 ส.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กองทะเบียนประวัติอาชญากร ได้ออกประกาศกองทะเบียนประวัติอาชญากร เรื่อง สืบจับผู้กระทำความผิด ฉบับที่ 353/2551 โดยประกาศดังกล่าวระบุว่า ด้วยได้รับหมายจับและตำหนิรูปพรรณผู้กระทำผิดจากศาล และพนักงานสอบสวนของหน่วยงานต่างๆ เพื่อออกประกาศสืบจับ ดังต่อไปนี้

1.ชื่อ พันตำรวจโททักษิณ ชื่อสกุล ชินวัตร ชื่ออื่น - ชื่อสกุลอื่น - ชื่อภาษาอังกฤษ - เลขประจำตัวประชาชน 3-1006-01824-83-4 เลขหนังสือเดินทาง - ว/ด/ป เกิด 26 ก.ค. 2492 เพศเชื้อชาติ ไทย สัญชาติ ไทย อาชีพ นักธุรกิจ ที่อยู่ เลขที่ 472 ซ.จรัญสนิทวงศ์ 69 ถ.จรัญสนิทวงศ์ ตำบล/แขวง บางพลัด อำเภอ/เขต บางพลัด จังหวัด กรุงเทพมหานคร ชื่อบิดา นายบุญเลิศ ชื่อมารดาชื่อภรรยา/สามี คุณหญิงพจมาน ชินวัตร ส่วนสูง 173 ซ.ม. น้ำหนัก - กก. รูปร่าง สันทัด ผิวผม- ตา กลม ตำหนิ/ลายสัก ลักษณะพิการ - ลักษณะพิการ/ลักษณะอันน่าสังเกต

หมายจับเลขที่ 2/2551 ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เลขคดีดำ 1/2550 เลขคดีแดง 1/2550 วันที่ออกหมาย 13 ส.ค. 2551 ผู้ออกหมาย นายทองหล่อ โฉมงาม ข้อหาภายในอายุความ 15 ปี วันขาดอายุความ

2.ชื่อ คุณหญิงพจมาน ชื่อสกุล ชินวัตร ชื่ออื่น - ชื่อสกุลอื่น - ชื่อภาษาอังกฤษ - เลขประจำตัวประชาชน 3-1002-02074-30-1 เลขหนังสือเดินทาง - ว/ด/ป เกิด 22 พ.ย. 2499 เพศ หญิง เชื้อชาติ ไทย สัญชาติ ไทย อาชีพ นักธุรกิจ ที่อยู่ เลขที่ 526 ถ.พระราม 5 ตำบล/แขวง ถนนนครไชยศรี อำเภอ/เขต ดุสิต จังหวัด กรุงเทพมหานคร ชื่อบิดา พ.ต.อ.เสมอ ชื่อมารดา นางพจนีย์ ชื่อภรรยา/สามี พันตำรวจโททักษิณ ชินวัตร ส่วนสูง 162 ซ.ม. น้ำหนัก - กก. รูปร่าง สันทัด ผิว ดำแดง ผม - ตา กลม ตำหนิ/ลายสัก ลักษณะพิการ - ลักษณะพิการ/ลักษณะอันน่าสังเกต -

หมายจับเลขที่ 3/2551 ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เลขคดีดำ 1/2550 เลขคดีแดง 1/2550 วันที่ออกหมาย 13 ส.ค. 2551 ผู้ออกหมาย นายทองหล่อ โฉมงาม ข้อหาภายในอายุความ 10 ปี วันขาดอายุความ 12 ส.ค. 2561

จึงขอประกาศให้ทราบทั่วกันและให้ทุกหน่วยงานช่วยติดตามสืบจับ หากผู้ใดพบเห็น หรือทราบแหล่ง/สถานที่หลบซ่อนของผ้กระทำความผิดข้างต้น ให้รีบแจ้งพนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบ เพื่อจัดการตามอำนาจหน้าที่ต่อไป

ประกาศ ณ วันที่ 14 สิงหาคม 2551

(ลงชื่อ) พันตำรวจเอก โสฬส พินิจศักดิ์
รองผู้บังคับการกองทะเบียนประวัติอาชญากร ปฏิบัติราชการแทน
ผู้บังคับการกองทะเบียนประวัติอาชญากร


ผู้จัดทำ
น.ส.ผาณิตตา ศรีวงษ์ 5131601126 น.ส.อมรรัตน์ จิรนนท์วงศ์ 5131601208
นายอนุชา พวงมณี 5131601205 น.ส.เสาวรส รักแก้ว 5131202087
น.ส.รจนา วงษารัตน์ 4931601817 นายเจษฎา เอื้อเฟื้อ 5131601027
น.ส.จุรีย์พร จันทร์แก้ว 5131601025 นายชัชชัย รักสันติสุข 5131601038
นายนเรศ วงศ์ชัยพาณิชย์ 5131601097 น.ส.จุรีรัตน์ อูปซาง 5131205227
น.ส.สุปราณี สุริยะจันทร์ 5131601201





ไฟเขียวกองทุนเก็บเงิน เพิ่ม ผู้ใช้น้ำมันจ่ายสมทบอีก30สต./ลิตร

กบง.ฉวยโอกาสราคาขาลง ไฟเขียวกองทุนเก็บเงิน เพิ่ม ผู้ใช้น้ำมันจ่ายสมทบอีก30สต./ลิตร
[23 ส.ค. 51 - 04:30]


นายพรชัย รุจิประภา ปลัดกระทรวงพลังงาน
เปิดเผยหลังการประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน(กบง.) ว่า กบง.
มีมติเห็นชอบ ให้ปรับเพิ่มอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมัน สำหรับน้ำมันเบนซิน
น้ำมันแก๊สโซฮอล์ และน้ำมันดีเซล อีก 30 สตางค์ต่อลิตร โดยให้มีผลตั้งแต่

วันที่ 23 ส.ค.และการปรับเพิ่มอัตราเงินส่งเข้ากองทุนฯ ครั้งนี้ ไม่ส่งผลกระทบ
ต่อราคาขายปลีกน้ำมันแต่อย่างใดก็ตามเนื่องจากผลของสถานการณ์ราคาน้ำมัน
ตลาดโลกที่ปรับตัวลดลง

อย่างไรก็ดี การส่งเงินเข้ากองทุนน้ำมันรอบใหม่นี้จะมีการเปลี่ยนแปลง ดังนี้
น้ำมัน เบนซิน 95 จากเดิมเรียกเก็บ 3.45 บาทต่อลิตรเป็น 3.75 บาทต่อลิตร

น้ำมันเบนซิน 91 จากเดิมเรียกเก็บ 3 บาทต่อลิตร เพิ่มเป็น 3.30 บาทต่อลิตร
น้ำมันแก๊สโซฮอล์ 95 จากเดิมเรียกเก็บ 0.25 บาทต่อลิตรเป็น 0.55 บาทต่อลิตร
น้ำมันแก๊สโซฮอล์ 91 จากเดิมชดเชย 0.25 บาทต่อลิตร เพิ่มการส่งเข้ากองทุน
เป็น 0.05 บาทต่อลิตร น้ำมันแก๊สโซฮอล์ E20 จากเดิมชดเชย 0.30 บาทต่อลิตร
จะลดเหลือ 0 บาทต่อลิตร น้ำมันไบโอดีเซลบี 2 จากเรียกเก็บ 0.10 บาทต่อลิตร

เพิ่มเป็น 0.40 บาทต่อลิตร และไบโอดีเซลบี 5 จากเดิมชดเชย 1.30 บาทต่อลิตร
ก็จะเปลี่ยนเป็นชดเชย 1 บาทต่อลิตร
นายพรชัยกล่าวว่า การปรับเพิ่มเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันจะทำให้กองทุนมี

รายรับสุทธิเพิ่มขึ้นจากวันละ 17 ล้านบาท เป็นวันละ 34.4 ล้านบาทหรือเท่ากับ
1,031 ล้านบาทต่อเดือน จากเดิมมีรายรับเพียงเดือนละ 500 ล้านบาท ซึ่งจะส่ง
ผลให้กองทุนมีสภาพคล่องตัวมากขึ้น และเป็นการส่งเสริมและสนับสนุนการใช้
พลังงานทดแทนตามนโยบายของประเทศเพื่อให้มีส่วนต่างจากราคาน้ำมันปกติ
เพราะยิ่งประชาชนหันมา ใช้พลังงานทดแทนมากขึ้นก็จะช่วยลดการนำเข้าน้ำมัน
จากต่างประเทศได้ต่อไป.


ราคาน้ำมัน กลาง


รูปจาก http://www.pttplc.com/th/nc_oi.aspx


ลิงก์ http://www.thairath.co.th/news.php?section=economic&content=101622
ข้อมูลจาก หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ปีที่ 59 ฉบับที่ 18477 วันเสาร์ ที่ 23 สิงหาคม 2551

โดย นาย อนุชา พวงมณี

วันอาทิตย์ที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2551

ปตท.สผ.กำไรพุ่งก๊าซ-น้ำมันหนุน


ปตท.สผ.ทุบสถิติกำไรพุ่งสูงสุดในรอบกว่า 20 ปี ไตรมาส 2 โกยเฉียด 1.3 หมื่นล้าน แหล่งอาทิตย์ผลิตก๊าซดีเกินคาด ราคาน้ำมันขึ้นหนุน นายมารุต มฤคทัต กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (ปตท.สผ.) เปิดเผยว่า ไตรมาส 2 ปีนี้บริษัทมีกำไรสุทธิ 12,996 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 81.57% จากช่วงเดียวกันปีก่อน และขยายตัว 45.95% เทียบกับไตรมาสแรกปีนี้ และรวม 6 เดือนแรกปีนี้กำไรทั้งสิ้น 21,901 ล้านบาท

ข่าวน้ำมัน

น้ำมันลดฮวบเชลล์ยังกั๊ก บางจากเล็งปรับลงอีก80ตังค์

หนังสือพิมพ์สยามรัฐ หน้าหนึ่ง

น้ำมันตลาดโลกดิ่งไม่หยุด ปิดที่ระดับ 12.326 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ลดลงอีก 2.23 เหรียญ "บางจาก" ตีปี๊ป สัปดาห์หน้าลดอีกลิตรละ 80 สตางค์ ขณะที่ บริษัทเชลล์ยักกั๊ก นักวิเคราะห์ตลาดโลกมั่นใจ น้ำมันสัปดาห์นี้ลดลงต่ออีก เหตุจากซาอุฯ เพิ่มกำลังการผลิตและน้ำมันสำรองสหรัฐฯ เพิ่มมากขึ้น


เครดิต http://www.ryt9.com/tag/%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B3%E0%B8%A1%E0%B8%B1%E0%B8%99/






จะเห็นอีกมั๊ย ราคาแบบนี้

วันอังคารที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2551

ราคาน้ำมันลง


ราคาน้ำมันลงแล้วจริงหรือ?


  • ตรวจสต๊อกน้ำมันทั่วประเทศ เที่ยงคืน 24 ก.ค.นี้ ก่อนใช้ราคาใหม่

พลังงาน เตรียมเช็กสต๊อกน้ำมันกว่า 1 หมื่นปั๊ม ทั่วประเทศ เที่ยงคืนวันที่ 24 ก.ค.นี้ ก่อนประกาศลอยตัวราคาใหม่ หลังลูกกรอกสั่งใช้มาตรการภาษี 0% ซึ่งเป็น 1 ใน 6 มาตรการ 6 เดือน เพื่อแก้ไขเงินเฟ้อ

วันที่ 21 ก.ค. 51 นายเมตตา บันเทิงสุข อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน กล่าวว่า ทุกหน่วยงานจะร่วมกันเช็กสต๊อกน้ำมันคงเหลือทั่วประเทศ 100 คลัง จำนวนกว่า 10,000 ปั๊ม เพื่อภาครัฐจะใช้เงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเข้าไปชดเชยราคาส่วนต่าง หลังปรับลดภาษีสรรพสามิต โดยได้ชี้แจงทำความเข้าใจแนวทางปฏิบัติ ป้องกันปัญหาปั๊มน้ำมันหยุดจำหน่าย หรือเร่งจำหน่ายน้ำมันเก่าจนหมด และทำให้เกิดการขาดแคลนในวันที่จำหน่ายน้ำมันราคาใหม่ หลังลดภาษีสรรพสามิตแล้ว

ทั้งนี้ ผู้ค้าน้ำมันและสถานีบริการน้ำมัน จะต้องหยุดจำหน่ายน้ำมันในเวลา 24.00 น.วันที่ 24 ก.ค.ที่จะถึงนี้ เพื่อให้ตรวจเช็กน้ำมันคงเหลือ หลังจากนั้น สามารถจำหน่ายได้ตามปกติในราคาใหม่ หลังลดภาษีแล้วทันที โดยในส่วนเงินที่จะชดเชยส่วนต่างราคาเก่าและใหม่ จะเป็นไปตามประกาศราคาขายปลีกของสำนักนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) ดังนี้

น้ำมันแก๊สโซฮอล์ทุกประเภท ทั้ง 95, 91 อี 20 และ อี 85 จะลดลง 3.88 บาทต่อลิตร ไบโอดีเซล บี 2 ลดลง 2.712 บาท และไบโอดีเซล บี 5 ลดลง 2.47 บาท ซึ่งการเช็กสต๊อกครั้งนี้ นับเป็นครั้งแรกหลังประเทศไทยได้ลอยตัวราคาน้ำมันตั้งแต่ปี 2534 ทั้งนี้ การชดเชยราคาน้ำมันเป็น 1 ใน 6 มาตรการตามโครงการ 6 มาตรการ 6 เดือน ฝ่าวิกฤตเพื่อไทยทุกคน ซึ่งจะมีผลตั้งแต่วันที่ 25 กรกฎาคม ถึงสิ้นเดือนมกราคมปีหน้า

เซียนน้ำมันฟันธง ปี"51ราคายังแพง

เซียนน้ำมันฟันธง ปี"51ราคายังแพง ใครจะคาดคิดว่าปี"50 ราคาน้ำมันตลาดโลกจะพุ่งถึง 100 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล จากต้นปีราคาน้ำมันดิบอยู่แค่ 50 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล น้ำมันสำเร็จรูปดีเซลและเบนซินอยู่ที่ 60-65 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล เผลอแป๊บเดียวราคาน้ำมันดิบทะลุ 100 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรลไปตั้งแต่เดือนต.ค.50 ส่วนน้ำมันดิบจ่อ 100 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล น้ำมันที่ถึงจุด 100 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล สร้างความตกใจให้กับคนไทยไม่น้อย และยังไม่ทันที่คนไทยจะหายตกใจ นายฮิวโก้ ชาเวซ ประธานาธิบดีของเวเนซุเอลา ขู่ว่าหากสหรัฐโจมตีอิหร่านจะทำให้ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกสูงถึง 200 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล เมื่อคิดเป็นราคาน้ำมันในไทยน่าจะอยู่ที่ 60-70 บาท/ลิตร ส่วนแนวโน้มน้ำมันในปี "หนูทอง" จะเป็นอย่างไร ติดตามจากการประเมินของผู้เชี่ยวชาญด้านพลังงานน้ำมันแพงรอบ 150 ปีนายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ รมว.พลังงาน มองว่าราคาน้ำมันในปีหน้าจะยังสูงต่อไป เนื่องจากกลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ของโลก(โอเปก) พอใจราคาน้ำมันดิบที่ 90-100 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้เคยระบุไว้ที่ 60 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล คงต้องติดตามว่าในการประชุมช่วงเดือนก.พ.51 โอเปกจะยืนยันที่จะไม่เพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันอีกหรือไม่ภาพรวมของสถานการณ์น้ำมันในปี"51 คงไม่ดีนักราคาจะยังผันผวนค่อนข้างสูง สิ่งสำคัญคือการผลิตของกลุ่มโอเปก ซึ่งเมื่อปีก่อนหน้านี้โอเปกลดกำลังการผลิตไป1.2 ล้านบาร์เรล/วัน และในปี"50 เพิ่มกลับมาให้เพียง 5 แสนบาร์เรล/วัน หากราคาน้ำมันลดต่ำกลุ่มโอเปกจะลดกำลังการผลิตเพื่อดันราคาให‰สูงขึ้นมา ขณะนี้กำลังการผลิตน้ำมันในหลายประเทศลดลง การพัฒนาแหล่งน้ำมันใหม่ๆ ทำได้ยากขึ้น ดังนั้นประเทศที่มีแหล่งน้ำมันของตัวเองจึงต้องทำให้ราคาแพงเข้าไว้ เพื่อหารายได้ให้มากที่สุด เก็บเงินเอาไว้ใช้ในช่วงที่ไม่สามารถผลิตน้ำมันได้อีก หากดูปริมาณสำรองน้ำมันทั้งโลกมีแค่ 3 ประเทศที่มีสำรองมาก คือ ซาอุดีอาระเบีย อิหร่าน อิรัก ส่วนประเทศอื่นๆ ปริมาณสำรองลดลงจนแทบไม่เหลือแล้ว "กลุ่มประเทศโอเปกต้องการให้ราคาน้ำมันสูง เพราะมั่นใจว่าคงไม่มีเชื้อเพลิง ชนิดใดมาทดแทนน้ำมันได้ในเร็วๆ นี้ ซึ่งราคาน้ำมันเป็นสิ่งที่คาดการณ์ยาก เมื่อปีก่อนก็มีคนบอกว่าราคาน้ำมันแพงที่สุดแล้ว แต่ปี"50 แพงกว่าเสียอีก หากถ้าเทียบกับเงินเฟ้อแล้ว ราคาน้ำมันปี"50 แพงสุดรอบ 150 ปี ส่วนในปี"51 หากเกิดสงครามโอกาสคงถึง 200 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล" นายปิยสวัสดิ์กล่าวสำหรับราคาขายปลีกในไทย แม้จะทำลายสถิติสูงสุด(นิวไฮ) ทั้งเบนซินและดีเซลมาแล้วหลายครั้ง แต่หากดูราคาเฉลี่ยทั้งปี ราคาเบนซินและดีเซลเฉลี่ยปีนี้ยังต่ำกว่าปีที่แล้ว และคนไทยมีทางเลือกในการใช้พลังงานทดแทนมากขึ้น โดยมีทั้งแก๊สโซฮอล์ที่ถูกกว่าเบนซินถึง 4 บาท/ลิตร ไบโอดีเซล 5% (บี5) ที่ถูกกว่าดีเซล 1 บาท/ลิตร ซึ่งต่างจากปี"49 ที่ไม่มีพลังงานทางเลือกอื่นๆ วิธีรับมือน้ำมันแพง คือลดการใช้น้ำมันลงในระยะยาว อาทิ สนับสนุนพลังงานทดแทน การเสาะหาแหล่งพลังงานในไทย รัฐไม่ควรใช้วิธีชดเชยราคา เพราะการชดเชยที่ผ่านมาเป็นหนี้เกือบ 1 แสนล้านบาท และต้องมาใช้หนี้อีกหลายปี ถ้าใช้วิธีชดเชยราคาก็ต้องทำไปตลอด พอน้ำมันแพงทีไร คนไทยคิดว่าเป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่ต้องดูแล ซึ่งเป็นวิธีที่ไม่ถูกต้องและจะทำให้มีผลกระทบระยะยาว หมดโอกาส 20 บาท/ลิตรนายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ประเมินราคาน้ำมันดิบปี"51 ว่าจะทรงตัวในระดับ 80-90 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล สำเร็จรูปอยู่ที่ 100 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ซึ่งจะทำให้ราคาขายปลีกเบนซินอยู่ที่ 32-33 บาท/ลิตร ดีเซล 28 บาท/ลิตร คนไทยคงหมดโอกาสใช้ราคาน้ำมันถูกแค่ 20 บาท/ลิตรแล้ว คงต้องติดตามเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดต่างๆ ทั้งเรื่องสงคราม อุบัติเหตุในแหล่งผลิตน้ำมัน และการผลิตของโรงกลั่นน้ำมันที่ล้วนเป็นปัจจัยทำให้ราคาน้ำมันขยับขึ้น และกระทบกับไทยในฐานะที่ต้องนำเข้าน้ำมันปีละมูลค่ากว่า 8 แสนล้านบาท หรือคิดเป็น 10% ของมูลค่าจีดีพี"ปี"50 เป็นปีที่เหนื่อยมาก ราคาน้ำมันขึ้นไม่หยุด สาเหตุหลักมาจากความต้องการใช้น้ำมันของจีน และสหรัฐที่สูงมาก คาดว่าปี"51 ความต้องการใช้น้ำมันสูงถึง 1.3% แต่การผลิตมีจำกัด ซึ่งจะเป็นแรงกดดันทำให้ราคาสูงต่อไป" นายประเสริฐ กล่าว แฉคนไทยใช้เปลืองด้านนายอนนต์ สิริแสงทักษิณ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่กลยุทธ์ และพัฒนาองค์กร ปตท. กล่าวถึงการประชุมร่วมกับผู้เชี่ยวชาญน้ำมันจากบริษัทยักษ์ใหญ่ของโลกเมื่อช่วงปลายปี"50ว่า ในที่ประชุมฟันธงว่าราคาน้ำมันในตลาดโลกคงไม่ปรับลดลงกว่าในปัจจุบัน เพราะการขุดน้ำมันขึ้นมาขายนั้นยากขึ้น เจ้าของบ่อน้ำมันเริ่มหวงแหนทรัพยากรของตัวเอง และต้องการให้น้ำมันแพง จึงไม่ค่อยพัฒนาแหล่งน้ำมันใหม่ขึ้นมาไทยเองยังเป็นประเทศที่ใช้พลังงานเปลืองกว่าประเทศอื่นๆ มากเป็น 2 เท่า เมื่อเทียบกับรายได้ของประชากร ทั้งๆ ที่ไม่ค่อยมี แหล่งพลังงานเป็นของตัวเอง ดังนั้นคงถึงเวลาแล้วที่ต้องเอาจริงเอาจังกับการแก้ปัญหาพลังงาน วิธีการที่ดีสุดคือลดการอุดหนุนด้านราคาลง ลุ้นน้ำมันถูกช่วงต้นปี"51ด้านบริษัทน้ำมันต่างชาติ นายธีรพจน์ วัชราภัย ประธานกรรมการ บริษัท เชลล์ในประเทศไทย จำกัด ระบุว่าจากการพูดคุยกับผู้บริหารเชลล์มองว่าในช่วง 2 เดือนแรกของปี"51 น้ำมันดิบอาจลดลงไปอยู่ที่ 80 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล เนื่องจากเศรษฐกิจโลกชะลอตัว สำรองน้ำมันของประเทศสหรัฐมีมากเพียงพอแล้วจึงไม่ต้องซื้อน้ำมันเพิ่มอีกแต่ถ้าผ่านพ้นช่วงต้นปีไปแล้วคาดว่าราคาน้ำมันตลาดโลกจะกลับมาอยู่ในระดับสูงอีกครั้ง แต่คงไม่ปรับฐานจาก 100 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ไปอยู่ที่ 150 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล เพราะเศรษฐกิจโลกคงรับไม่ได้ช่วงที่ราคาน้ำมันแพงอย่างนี้ สิ่งที่คนไทยต้องปรับตัวคือ ระยะสั้นคือต้องย้อนกลับมาดูพฤติกรรมในการใช้น้ำมันของตัวเองว่าใช้น้ำมันอย่างไร วิธีการที่จะลดการใช้น้ำมันลงคือวางแผนการเดินทางให้ดี ไม่บรรทุกของหนัก ดูแลอุปกรณ์ในรถยนต์เพื่อให้ประหยัดน้ำมัน ส่วนในระยะปานกลางและระยะยาวต้องอยู่ที่นโยบายรัฐบาล ขณะนี้มีเรื่องพลังงานทดแทน ไบโอดีเซลและแก๊สโซฮอล์ ที่แม้จะช่วยลดการใช้น้ำมันลงได้บ้าง แต่ก็เป็นปริมาณที่ไม่มากนัก สิ่งที่จะได้ผลเร็วคือการปรับปรุงระบบขนส่งมวลชน เร่งรัดระบบราง นำรถไฟฟ้ามาใช้ให้เร็วที่สุด ปรับปรุงระบบรถไฟในต่างจังหวัด เพื่อสนับสนุนให้คนไทยใช้ระบบรางให้มากสุดหลากหลายความเห็นต่อสถานการณ์น้ำมันปี"51 ที่มองเห็นสอดคล้องกันว่าสถานการณ์จะรุนแรงต่อไป คนไทยต้องเร่งปรับตัวรับมือน้ำมันแพง ด้วยการประหยัด และใช้พลังงานทดแทนให้มากขึ้นายอนุสรณ์ แสงนิ่มนวล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) มองว่าประเด็นสำคัญที่ราคาน้ำมันแพง คงไม่ได้มาจากกำลังการผลิตในกลุ่มโอเปกเพียงประเด็นเดียว แต่ขณะนี้กองทุนเก็งกำไร(เฮดจŒฟันด์) เข้ามาซื้อขายน้ำมันเพื่อทำกำไรกันมากขึ้นที่น่ากลัวคือผู้ผลิตน้ำมันในกลุ่มโอเปกบางประเทศนำเงินจากการขายน้ำมันมาซื้อน้ำมันเพื่อเก็งกำไรในลักษณะการปั่นราคาน้ำมันให้สูงขึ้น ดังนั้นราคาน้ำมันในปีนี้จึงปรับฐานจาก 50 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล มาอยู่ที่ 70 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล และในปีหน้าคาดว่าจะปรับฐานไปอยู่ที่ 80 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรลสิ่งที่ไทยต้องเร่งดำเนินการคือในเรื่องพลังงานทดแทน และตั้งเป้าไปเลยว่า "ไทยจะเป็นผู้นำด้านพลังงานทดแทนของเอเชีย" ขณะนี้ไทยใช้พลังงานทดแทนเพียง 0.9% ในขณะที่มีศักยภาพ 10-14% แม้ว่าจะเป็นปริมาณที่ไม่มากนัก เพราะแต่ละปีไทยนำเข้าพลังงานในภาพรวมเป็นเงินถึง 1 ล้านล้านบาท แต่หากทำได้ 10% จะช่วยลดการนำเข้าลง 1 แสนล้านบาท แม้จะเป็นจำนวนเงินไม่มากก็ยังดีกว่าต้องพึ่งพาน้ำมันที่มีราคาแพงเกือบทั้งหมดการใช้พลังงานทดแทนนอกจากจะช่วยลดผลกระทบปัญหาน้ำมันแพงแล้ว ยังเป็นการช่วยเหลือเกษตรกร ชาวไร่ ชาวนา ทำให้ราคาพืชผลทางการเกษตรดีขึ้น จับตา 6 ปัจจัยเสี่ยงสˆวนนายมนูญ ศิริวรรณ ผู้เชี่ยวชาญด้านน้ำมัน มองว่า ปัจจัยที่มีผลต่อราคาน้ำมันช่วงปี"51 มีอยู่ 6 ปัจจัยหลัก คือ 1.ปริมาณการผลิตของกลุ่มโอเปก ซึ่งคงต้องติดตามในช่วงเดือนก.พ.51 ว่าโอเปกจะปรับเพิ่มโควตาน้ำมันหรือไม่ 2.ค่าเงินสหรัฐคงต้องติดตามว่าจะอ่อนตัวลงไปในระดับใด เพราะถ้าค่าเงินอ่อนตัวลงโอเปกจะดันราคาให้สูงขึ้น เพื่อชดเชยรายได้ที่หายไปจากค่าเงินอ่อนตัว3.ต้องติดตามสถานการณ์ความไม่สงบในตะวันออกกลางที่เป็นแหล่งน้ำมันของโลกว่าจะมีเหตุการณ์ใดปะทุขึ้นมาอีกหรือไม่ 4.สภาพอากาศในแถบยุโรป และสหรัฐว่าจะหนาวเย็นเพียงใด หากหนาวมากก็ต้องการน้ำมันเพื่อไปทำความอบอุ่นมาก ราคาน้ำมันก็จะแพง 5.กลุ่มเฮดจŒฟันด์ที่จะเข้ามาเก็งกำไรน้ำมัน 6.เศรษฐกิจในประเทศผู้ใช้น้ำมันรายใหญ่ อาทิ สหรัฐ จีน อินเดียไทยเดินมาถูกทางแล้วในการสนับสนุนให้คนไทยใช้พลังงานทดแทน แต่การเร่งส่งเสริมต้องบริหารจัดการให้ดี ดูปริมาณการผลิตให้สอดคล้องกับความต้องการใช้ ไม่ควรปล่อยให้เอทานอลล้นตลาด แต่ไบโอดีเซลขาดตลาดเหมือนอย่างที่เป็นอยู่ในขณะนี้กลุ่มโอเปกตัวการปั่นราคานายอนุสรณ์ แสงนิ่มนวล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) มองว่าประเด็นสำคัญที่ราคาน้ำมันแพง คงไม่ได้มาจากกำลังการผลิตในกลุ่มโอเปกเพียงประเด็นเดียว แต่ขณะนี้กองทุนเก็งกำไร(เฮดจŒฟันด์) เข้ามาซื้อขายน้ำมันเพื่อทำกำไรกันมากขึ้นที่น่ากลัวคือผู้ผลิตน้ำมันในกลุ่มโอเปกบางประเทศนำเงินจากการขายน้ำมันมาซื้อน้ำมันเพื่อเก็งกำไรในลักษณะการปั่นราคาน้ำมันให้สูงขึ้น ดังนั้นราคาน้ำมันในปีนี้จึงปรับฐานจาก 50 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล มาอยู่ที่ 70 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล และในปีหน้าคาดว่าจะปรับฐานไปอยู่ที่ 80 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรลสิ่งที่ไทยต้องเร่งดำเนินการคือในเรื่องพลังงานทดแทน และตั้งเป้าไปเลยว่า "ไทยจะเป็นผู้นำด้านพลังงานทดแทนของเอเชีย" ขณะนี้ไทยใช้พลังงานทดแทนเพียง 0.9% ในขณะที่มีศักยภาพ 10-14% แม้ว่าจะเป็นปริมาณที่ไม่มากนัก เพราะแต่ละปีไทยนำเข้าพลังงานในภาพรวมเป็นเงินถึง 1 ล้านล้านบาท แต่หากทำได้ 10% จะช่วยลดการนำเข้าลง 1 แสนล้านบาท แม้จะเป็นจำนวนเงินไม่มากก็ยังดีกว่าต้องพึ่งพาน้ำมันที่มีราคาแพงเกือบทั้งหมดการใช้พลังงานทดแทนนอกจากจะช่วยลดผลกระทบปัญหาน้ำมันแพงแล้ว ยังเป็นการช่วยเหลือเกษตรกร ชาวไร่ ชาวนา ทำให้ราคาพืชผลทางการเกษตรดีขึ้น

จากหนังสือพิมพ์ ข่าวสดรายวัน ปีที่ 17 ฉบับที่ 6241

วันอังคารที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2551

ประวัติส่วนตัว



ชื่อ-นามสกุล : นาย อนุชา พวงมณี
ชื่อเล่น เปรม
ID : 5131601205
เรียนสำนักวิชา นิติศาสตร์ สาขา นิติศาสตร์
ความใฝ่ฝัน : อยากเป็นอัยการ ผู้พิพากษา
คติในการดำเนินชีวิต : ต้องทำให้สำเร็จในทุกๆเรื่อง ไม่ว่าจะยากสักแค่ไหนเพราะไม่มีอะไรที่

ใหญ่เกินกว่าที่เราจะทำไม่แข็งต่อผู้อื่นแต่ก็ไม่อ่อนแอ ผมเป็นคนเงียบๆ ไม่กินเหล้า ไม่สุบบุหรี่
ไม่เล่นการพนัน แต่ไม่ชอบการบังคับที่ต้องอึดอัดใจ ผมชอบเรียนนิติฯ มาก ชอบอ่านกฎหมาย
ติดตามเสมอว่ากฎหมาย มีการเปลี่ยนแปลงอ่ะไรบ้าง ผมไม่จำเป็นต้องรวยขอแค่พอมีพอกิน
ก็พอ แต่ผมจะไม่ชอบคนที่เอาเปรียบคนอื่นเอามากๆๆ.................................
คติประจำใจ : จริงใจและจริงจัง
เบอร์โทร : 0866630352
E-mail
prem39rv39@hotmail.com





ชื่อ-นามสกุล : นางสาว สุปราณี สุริยะจันทร์
ชื่อเล่น หญิง
( "สุ" แปลว่า ดี งาม "ปราณี" มาจากคำว่าปราณ หมายถึง ลมหายใจเมื่อเติมสระ
อีเข้าไปเป็น ปราณี หมายถึงเป็นผู้มีชีวิตหรือเป็นผู้ที่มีลมหายใจ "สุปราณี" แปลว่า
ผู้มีชีวิตที่ดี ฉะนั้น ชื่อจริง + ชื่อเล่น จึงแปลว่า หญิงผู้มีชีวิตที่ดี)
ID : 5131601201
เรียนสำนักวิชา : นิติศาสตร์ สาขา นิติศาสตร์
ความใฝ่ฝัน : อยากเป็นอัยการ
คติในการดำเนินชีวิต: จงใช้ชีวิตด้วยความสุจริต รอบคอบ และสงบ
เพื่อความยุติธรรม อาจมีบางครั้งที่...รู้สึกเหนื่อยล้ารู้สึกท้อแท้...
แต่ก็อยากให้รู้ว่ามี กำลังใจอีกมากมายที่คอยเอาใจช่วย ล้มแล้ว
ก็ต้องลุกขึ้นตราบ
ใดที่อวัยวะ ในอกข้างซ้ายยังเต้นอยู่...เราก็ต้องสู้ต่อไป
Love isn't always as you dream




ชื่อ-นามสกุล : นางสาว อมรรัตน์ จิรนนท์วงศ์
ชื่อเล่น ปุ๊
เรียนสำนักวิชา นิติศาสตร์ สาขา นิติศาสตร์
ID : 5131601208
คติประจำใจ คิดทุกคำที่พูด แต่ไม่พูดทุกคำที่คิด
นิสัยส่วนตัว เป็นคนใจร้อน ไม่ชอบความวุ่นวาย ไม่ชอบให้ใครมายุ่งกับชีวิต
เป็นคนรัก เพื่อนมาก คบเพื่อนด้วยใจ แต่ถ้าผิดหวังจากเพื่อนจะจดจำและ
มีอคติกับคนนั้นไปเลย แต่ก็เป็นคนสนุกสนานร่าเริง ชอบความสนุก
ชอบไปเที่ยว ชอบมีเพื่อนเยอะๆ เป็นคนที่รักครอบครัว ไม่ชอบให้ใครมา
ว่าบุพการี จะฝังใจกับทุกคำที่รุนแรง
เบอร์โทร : 083-1913960/084-8494354
E-mail : pu_boom555@hotmail.com





ชื่อ-นามสกุล : นางสาว จุรีย์พร จันทร์แก้ว
ชื่อเล่น นุ่ม
เรียนสำนัก นิติศาสตร์ สาขา นิติศาสตร์
ID : 5131601025
คติประจำใจ การเอาตัวรอดคือยอดคน
อนาคต ผู้พิพากษา
นิสัยส่วนตัว ไม่ค่อยพูดสักเท่าไหร่ ไม่ชอบความวุ่นวาย
ชอบอยู่คนเดียวเงียบๆ ชอบคนหน้ารัก ชอบมีเพื่อนเยอะๆ
เบอร์โทร : 0850378389
E-mail : no.om.001@hotmail.com






ชื่อ-นามสกุล : นางสาว เสาวรส รักแก้ว
ชื่อเล่น กิ๊ฟท์
ID : 5131202087
เรียนสำนัก การจัดการ สาขา เศรษฐศาสตร์
คติประจำใจ เดินเซไปข้างหน้าดีกว่าบ้าอยู่ข้างหลัง และเมื่อมีโอกาศ
จงทำในสิ่งที่ยากกว่า ก่อนที่โอกาศนั้นจะหลุดลอยไป
นิสัย ร่าเริง แจ่มใส ชอบทำอะไรที่ท้าทาย
เบอร์โทร : 0873832438
E-mail : gyb_socute@hotmail.com






ชื่อ-นามสกุล : นางสาว รจนา วงษารัตน์
รหัสประจำตัว : 4931601817
ปัจจุบันได้ศึกษาอยู่ที่สำนักวิชา นิติศาสตร์ สาขาวิชา นิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง
ครอบครับ มีพี่น้องร่วมบิดามารดาทั้งหมด 3 คน เป็นบุตรคนที่ 3 มีพี่ชาย 1 คน พี่สาว 1 คน
นิสัยส่วนตัว เป็นคนร่าเริง แจ่มใสขี้น้อยใจเป็นบางครั้งไม่ชอบการอยู่คนเดียว รักความสะอาด
ไม่ชอบเห็นอะไรสกปรก ชอบแต่งตัวแต่บางครั้งก็ไม่ค่อยแต่งเท่าไร แล้วแต่อารมณ์
เป็นคนที่ไม่ชอบกินแกงเขียวหวานมากๆ ชอบท่องเที่ยวไปในสถานที่ต่างๆ แหล่งที่
ชอบไปเที่ยวมากที่สุดคือตรอกข้าวสาร เวลาว่างชอบอ่านหนังสือ เพราะเป็นการปิด
โลกทัศน์ให้กว้างขึ้น
แนวความคิดเกี่ยวกับวิชานี้คือ เป็นวิชาที่น่าสนใจ ดิฉันคิดว่ามันมีประโยชน์มากที่จะทำไปให้ใน
อนาคต รวมทั้งสามารถนำไปใช้ในสาขางานที่จะเข้าไปทำได้ด้วย แล้วยิ่งในปัจจุบันนี้
ที่มีปัญหาต่างๆ ไม่ว่าจะเรื่องทางเศรฐกิจ หรือการเมือง ดิฉันคิดว่าสามารถที่จะนำเอาหลัก
ของวิชานี้เข้าไปเกี่ยวโยงได้ในหลายๆ ส่วน ถึงแม้ในบางครั้งดิฉันคิดว่าวิชานี้เป็นวิชาที่
ยาก แต่ทุกครั้งที่ดิฉันได้เรียน ได้ศึกษา ดิฉันรู้สึกชอบ และอยากเรียนรู้ให้ละเอียดลึกซึ้ง
มากขึ้นกว่าเดิม





ชื่อ-นามสกุล : นางสาว ผาณิตตา ศรีวงษ์
ชื่อเล่น แก้ม
ความหวานของชื่อ ผาณิต แปลว่า น้ำหวาน
(ถ้าเปรียบกับคนก็เสมือนผู้หญิงที่อ่อนหวานเหมือนน้ำตาล)
เป็นคนจังหวัด กำแพงเพชร
เรียนสำนักวิชา นิติศาสตร์ สาขา นิติศาสตร์
ID: 5131601126
นิสัย เป็นคนเรียนง่าย สบายๆแต่พิถีพิถัน
คติประจำใจ ทำวันนี้ให้ดีที่สุด
อนาคตอยากเป็น อาจารย์มหาวิทยาลัยสอนวิชากฎหมาย
การมองโลก : สังคมในยุคนี้เต็มไปด้วยการแก่งแย่งชิงดีชิงเด่น การแข่งขันที่สูงทำให้คนมี
ภาวะความตึงเครียดเกิดขึ้น แต่ในการมองโลกของฉันแล้วโลกนี้เป็นโลกที่สดใสและสวยงาม
มีอะไรให้เราคิดค้นหาอีกมากมาย โลกใบนี้ทำให้ฉันเต็มไปด้วยประสบการณ์
เบอร์โทร : 0892700438
E-mail : love_kam_s@hotmail.com






ชื่อ-นามสกุล : นางสาว จุรีรัตน์ อูปซาง
(เป็นชื่อที่คุณย่าตั้งให้เอง กับมือ แต่พอถามว่าแปลว่าอะไร ดันบอกว่าไม่รู้ซะงั้น แปร่วว )
ชื่อเล่น แคท

เกิดวันที่ 15 ม.ค 2531
ราศี มังกร
เรียนสำนักวิชา : การจัดการ สาขา การท่องเที่ยว
ID: 5131205227
คติไม่ประจำใจ : I know I can't be close but I will try ma best to reach on brain-teaser
นิสัยส่วนตัว : เป็นคนขี้เล่น ชอบเที่ยว ชอบเต้น แต่จริงจังกับเรื่อง สำคัญ ชอบกินเป็นที่หนึ่ง
เดินไปไหนก็ ต้องเคี้ยวอยู่นั่น เพื่อนๆชอบเรียก ตุ้ยนุ้ย ไม่ให้ตุ้ยนุ้ยได้ไง ก็กินประจำอยากเป็น

คนพูดน้อย อยากทำอาหารให้เป็น แต่ก็ยังแอบทอดไข่ ไหม้ อยู่ดี .... (-_-*)
E-mail : roxykatki@hotmail.com







ชื่อ-นามสกุล : นาย นเรศ วงศ์ชัยพาณิชย์
ชื่อเล่น ป๊อบปี้
ID : 5131601097
เรียนสำนักวิชา นิติศาสตร์ สาขา นิติศาสตร์
ที่อยู่ หอพักลำดวน 1 ห้อง 301
เบอร์โทร 087-5692989
นิสัย : เป็นคนร่าเริง มองโลกในแง่ดี ชอบเข้าสังคม ขี้เหงา เวลาว่างไม่ชอบทำอะไร เดี๋ยวจะ
ไม่ว่าง ชอบกินผลไม้ แต่ เกลียดมังคุดกับทุเรียน ชอบเล่น บีบีกัน แต่หาเงินใช้เองยังไม่ได้
E-mail : lvevel2say_goodl3ye@hotmail.com






ชื่อ-นามสกุล : นาย เจษฎา เอื้อเฟื้อ
ชื่อเล่น เจต
เรียนสำนักวิชา นิติศาสตร์ สาขา นิติศาสตร์
คติประจำใจ ไม่เสียสละ ชัยชนะก็ไม่เกิด
สำหรับตัวผมเองเวลาจะทำอ่ะไรสักอย่าง ถ้าสิ่งนั้นเป็นสิ่งที่ผมชอบ และรักที่จะทำ
ผมจะทุ่มเททุกอย่างด้วยใจ เพื่อที่จะได้ไม่ต้องมานั่งเสียใจภายหลัง ก็คือการเอา
ใจเข้าแลก เพราะผมคิดว่าเรื่องบางสิ่งบางอย่างมันก็วัดกันที่ ใจ......












ชื่อ-นามสกุล : นาย ชัชชัย รักสันติสุข
(ชัชชัย แปลว่า ผู้ชนะในสนามรบ)
ชื่อเล่น หลิว
นิสัย เป็นคนเรื่อยๆ วันๆไม่ทำอะไร ชอบนอน ไม่ชอบตื่นเช้า แต่จริงจังกับทุกสิ่งที่อยากได้
แรงบันดาลใจ คุณลุงเป็นผู้พิพากษา
เรียนสำนักวิชา นิติศาสตร์ สาขา นิติศาสตร์
ID : 5131601038
เบอร์โทร 084-5010879