เว็บบล็อกนี้จัดทำขึ้นเพื่อใช้ในการเรียนวิชาการเมืองและการปกครอง มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง

วันพุธที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2551

เปิดโผ "ครม.สมชาย 1" ล่าสุด



นายกรัฐมนตรี
นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์
รองนายกรัฐมนตรี
พล.อ.ชวลิต ยงยงยุทธ รองนายก ฯ ตำแหน่งเดียว
พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ ควบ รมว.มหาดไทย
พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายก ฯ ตำแหน่งเดียว
นาย โอฬาร ไชยประวัติ รองนายก ฯ ตำแหน่งเดียว
นาย สมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ***นาย มิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ ***
รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
นายสุขุมพงษ์ โง่นคำ ดูงานฝ่ายกฎหมาย (แทนนายชูศักดิ์ ศิรินิล)

กระทรวงมหาดไทย
พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ รมว. (ตำแหน่งเดิม)
นายสุพล ฟองงาม รมช. (ตำแหน่งเดิม) หรือ นายปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข
นายประสงค์ โฆษิตานนท์ รมช.

กระทรวงการคลัง
นายสุชาติ ธาดาธำรงเวช รมว. (อดีต รมช.คลัง)
นายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ รมช. (ตำแหน่งเดิม)
ร.ต.หญิง ระนองรักษ์ สุวรรณฉวี รมช. (ตำแหน่งเดิม) ภริยาว่าที่ ร.ต.ไพโรจน์ สุวรรณฉวี

กระทรวงศึกษาธิการ
นายศรีเมือง เจริญศิริ รมว. ส.ส.สัดส่วน พปช. (คนใกล้ชิดคุณหญิง พจมาน ชินวัตร)ว่าที่ร้อยตรี พงษ์พันธุ์ สุนทรชัย รมช. ***

กระทรวงกลาโหม
นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ รมว.
กระทรวงการต่างประเทศ
นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ รมว. (อดีตรมว.ยุติธรรม)

กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ (ตำแหน่งเดิม)

กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
นายอุดมเดช รัตนเสถียร ส.ส.ปทุมธานี คนใกล้ชิดคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์

กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล รมว. (ตำแหน่งเดิม)
นายสมพัฒน์ แก้วพิจิตร รมช.
นายธีระชัย แสนแก้ว รมช.

กระทรวงคมนาคม
นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมว. (ตำแหน่งเดิม)
นายโสภณ ซารัมย์ รมช.
นายวราวุธ ศิลปอาชา รมช. (ลูกชาย บรรหาร ศิลปอาชา)

กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
นางอนงค์วรรณ เทพสุทิน (ตำแหน่งเดิม)

กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที)
นายมั่น พัธโนทัย (ตำแหน่งเดิม)

กระทรวงพลังงาน
นพ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล รมว. ส.ส. นครราชสีมา พรรครวมใจไทยชาติพัฒนา (แทนพล.ท.หญิง พูนภิรมย์ ลิปตพัลลภ)

กระทรวงพาณิชย์
นายไชยา สะสมทรัพย์ รมว. (ตำแหน่งเดิม)
พ.ต.ท. บรรยิน ตั้งภากรณ์ รมช.
นาย สงคราม เลิศกิจไพโรจน์ รมช. ***

กระทรวงยุติธรรม
นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ กระทรวงแรงงาน
นางอุไรวรรณ เทียนทอง รมว. (ตำแหน่งเดิม)

กระทรวงวัฒนธรรม
นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล รมว.
กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
นายวุฒิพงศ์ ฉายแสง รมว. (ตำแหน่งเดิม)

กระทรวงสาธารณสุข
ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.
นายวิชาญ มีนชัยนันท์ รมช. ***

กระทรวงอุตสาหกรรม
พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รมว. ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคพผ. (แทนสุวิทย์ คุณกิตติ) --------------------------------

หมายเหตุ
รายชื่อบุคคลที่คาดว่าจะได้รับการแต่งตั้งดำรงตำแหน่งในคณะรัฐบาลนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ส่วนสัญญลักษณ์ *** หมายถึงบุคคลที่อาจเข้ามาสอดแทรกหรือสลับตำแหน่งรัฐมนตรี----------------

เครดิต:หนังสือพิมพ์มติชนออนไลน์

โดย :
น.ส.เสาวรส รักแก้ว 5131202087 น.ส.รจนา วงษารัตน์ 4931601817
นายอนุชา พวงมณี 5131601205 น.ส.สุปราณี สุริยะจันทร์ 5131601201
นายเจษฎา เอื้อเฟื้อ 5131601027 น.ส.จุรีย์พร จันทร์แก้ว 5131601025
นายชัชชัย รักสันติสุข 5131601038 น.ส.ผาณิตตา ศรีวงษ์ 5131601126
นายนเรศ วงศ์ชัยพาณิชย์ 5131601097 น.ส.อมรรัตน์ จิรนนท์วงศ์ 5131601208
น.ส.จุรีรัตน์ อูปซาง 5131205227

วันอังคารที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2551

พธม.ชี้ครม.เป็นพวก"ฝนตกขี้หมูไหล" ไร้ความชอบธรรม



ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 10.00 น. พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำกลุ่มพันธมิตรเพื่อประชาธิปไตย กล่าวถึงโผรายชื่อคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ว่า พรรคพลังประชาชนกำลังจะถูกยุบและถูกตัดสิทธิการเมือง 5 ปี แต่กลับยังตั้งบุคคลเหล่านี้เป็นรัฐมนตรีอีก ทั้งนี้ เรื่องของบ้านเมืองไม่ใช่เรื่องเล่นๆ ก็รู้อยู่แล้วว่าอนาคตอันใกล้จะถูกยุบพรรคอยู่แล้ว ก็ยังตั้งมาอีก ด้านนายสมศักดิ์ โกสัยสุข แกนนำพันธมิตรฯ กล่าวว่า คณะรัฐมนตรีเป็นพวกฝนตกขี้หมูไหล เพราะนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี ก็เคยไปพบกับสมเด็จฮุนเซ็น นายกรัฐมนตรีกัมพูชา สมัยที่เจรจากรณีพิพาทปราสาทเขาพระวิหาร ทำให้รัฐบาลชุดนี้หมดความชอบธรรมไปแล้ว เพราะหลายคนเป็นรัฐมนตรีที่ยกมือเรื่องเขาพระวิหาร ตนจึงไม่รู้สึกตื่นเต้นหรือคาดหวังอะไรกับครม.ชุดนี้ พรรคกำลังจะถูกยุบ เพราะโกงการเลือกตั้งและได้ตั้งพรรคการเมืองใหม่รอไว้แล้วอย่างนี้ประชาชนจะหวังอะไรได้

เครดิต:หนังสือพิมพ์มติชนออนไลน์
โดย :
น.ส.เสาวรส รักแก้ว 5131202087 น.ส.รจนา วงษารัตน์ 4931601817
นายอนุชา พวงมณี 5131601205 น.ส.สุปราณี สุริยะจันทร์ 5131601201
นายเจษฎา เอื้อเฟื้อ 5131601027 น.ส.จุรีย์พร จันทร์แก้ว 5131601025
นายชัชชัย รักสันติสุข 5131601038 น.ส.ผาณิตตา ศรีวงษ์ 5131601126
นายนเรศ วงศ์ชัยพาณิชย์ 5131601097 น.ส.อมรรัตน์ จิรนนท์วงศ์ 5131601208
น.ส.จุรีรัตน์ อูปซาง 5131205227

วันจันทร์ที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2551

พันธมิตรฯขู่"สมชาย"มาโดนไล่แน่ เพราะยิ่งกว่านอมินี

พล.ต.จำลอง ศรีเมือง พร้อมนายสมศักดิ์ โกศัยสุข แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ร่วมแถลงข่าวที่ห้องสื่อมวลชน ทำเนียบรัฐบาล ย้ำว่าจะต่อสู้ต่อไปจนกว่าจะมีการเมืองใหม่ โดยนายสมศักดิ์ ชี้แจงแนวคิดการเมืองใหม่และรัฐบาลประชาภิวัฒน์ว่า เรื่องรายละเอียดยังไม่ได้กำหนด เพราะต้องชี้ให้เห็นถึงเป้าหมายก่อนว่า ผู้บริหารประเทศต้องคนที่สุจริต ไม่โกง ได้รับการยอมรวมจากทุกฝ่ายในสังคม และเปิดโอกาสทุกฝ่ายเข้ามามีส่วนร่วม ทั้งนี้ลักษณะผู้นำที่พันธมิตรต้องการคือ 1.เป็นคนดี 2.ตรวจสอบได้ 3.ถ้าไม่ดี ต้องถอดถอนได้ง่าย ไม่เช่นนั้นจะเป็นลักษณะเผด็จการรัฐสภา นายสมศักดิ์ ยังกล่าวย้ำว่า หากนายกฯมาจากพรรคพลังประชาชน พันธมิตรฯก็จะชุมนุมขับไล่ต่อไป เพราะถือว่าไม่ฟังเสียงประชาชน และถึงจะหน้าด้านตั้งรัฐบาลได้ พันธมิตรฯ ชุมนุมขับไล่ต่อไปจนกว่าออกเบ็ดเสร็จ และมีรัฐบาลประชาภิวัฒน์ อย่างไรก็ตาม แม้พรรคประชาธิปัตย์จะยอมรับนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชาชน แต่พันธมิตรฯ ไม่ยอมรับ เพราะนายสมชายไม่ใช่แค่นอมินี แต่เป็นถึงน้องเขยของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ "นายสมชายเป็นอย่างไรใครก็รู้ นายสมัครยังเป็นแค่นอมินี แต่นายสมชายเป็นถึงเจ้าภาพ เกี่ยวข้องกับครอบครัว เป็นสามีนางเยาวภา เป็นถึงเจ้าภาพของการโกงไม่ใช่แค่นอมินีแล้ว ทั้งนี้ไม่ต้องรอดูพฤติกรรมการทำงาน เพราะที่ผ่านมานายสมชายก็ยกมือร่วมกับรัฐบาลนี้ทำความผิด ผมยังแปลกใจว่าทำไมประชาชนถึงมองไม่เห็น" นายสมศักดิ์ กล่าว

โดย :น.ส.เสาวรส รักแก้ว 5131202087 น.ส.รจนา วงษารัตน์ 4931601817นายอนุชา พวงมณี 5131601205 น.ส.สุปราณี สุริยะจันทร์ 5131601201นายเจษฎา เอื้อเฟื้อ 5131601027 น.ส.จุรีย์พร จันทร์แก้ว 5131601025นายชัชชัย รักสันติสุข 5131601038 น.ส.ผาณิตตา ศรีวงษ์ 5131601126นายนเรศ วงศ์ชัยพาณิชย์ 5131601097 น.ส.อมรรัตน์ จิรนนท์วงศ์ 5131601208น.ส.จุรีรัตน์ อูปซาง 5131205227

วันพฤหัสบดีที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2551

สมชายยันไม่มีชื่อสำรอง สว.ชู7คุณสมบัตินายกฯ



วันนี้ (11 ก.ย.) นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ รักษาการนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ ส.ส.พรรคพลังประชาชน มีมติเสนอให้นายสมัคร สุนทรเวช กลับมาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง ว่า ตนไม่ได้เข้าร่วมประชุมด้วย เพราะต้องเดินทางไปทำงานที่ จ.เชียงใหม่ แต่เท่าที่ทราบขณะนี้ ผลการประชุมยังไม่แล้วเสร็จ แต่จะเสร็จสิ้นภายในวันนี้ โดยมอบหมายให้ นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี เลขาธิการพรรคพลังประชาชน นำผลการประชุมของพรรคไปแจ้งแก่พรรคร่วมรัฐบาลอีก 5 พรรค เพื่อนำไปหารือและประชุมกันภายในพรรคอีกครั้งหนึ่ง
ส่วนกรณีที่เกรงกันว่าหากเสนอชื่อ นายสมัคร เป็นนายกรัฐมนตรี อาจมีเสียงคัดค้านจากกลุ่มพันธมิตรฯ และทางพรรคจะมีการเสนอชื่อนายกรัฐมนตรีสำรองหรือไม่นั้น นายสมชาย กล่าวว่า การพิจารณาเลือกนายกรัฐมนตรี คงจะสำรองไม่ได้ หากลงมติเสนอคนใดก็ต้องเป็นคนนั้น แต่ยืนยันว่าคนที่ถูกเลือกเป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่นั้น จะต้องเป็นคนที่สามารถลดความขัดแย้งได้อย่างแน่นอน
วันเดียวกัน น.ส.รสนา โตสิตระกูล ส.ว.กทม. ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการตรวจสอบการทุจริตและเสริมสร้างธรรมาภิบาล พร้อมด้วยนายประสาร มฤคพิทักษ์ ส.ว.สรรหา น.ส.สุมล สุตะวิริยะกุล ส.ว.เพชรบุรี นายสาย กังกเวคิน ส.ว.ระยอง ร่วมแถลงข่าวเสนอคุณสมบัติ 7 ประการ ของผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งเป็นนายกรัฐมนตรี คือ 1. ต้องมีความอดทน ตั้งใจในการแก้ไขปัญหาของประเทศ โดยยึดหลักสันติวิธี 2. มีจิตสำนึก ซื่อสัตย์ และบริหารงานอย่างมีธรรมาภิบาล ประชาชนสามารถตรวจสอบได้ 3. จะต้องเป็นผู้ที่ทำประชาชนเกิดความไว้วางใจ และมีเสถียรภาพ 4. ไม่เป็นผู้สร้างเงื่อนไขในการแบ่งฝักแบ่งฝ่าย จนนำไปสู่ความแตกแยก
5. จะต้องมาจากระบบรัฐสภา 6.มีวิสัยทัศน์ในการปฏิรูปการเมือง ใจกว้าง และพร้อมรับฟังความคิดเห็น และ 7. เปิดโอกาสให้ประชาชน สื่อมวลชน และองค์กรต่างๆ สามารถแสดงความคิดเห็นทางการเมืองได้โดยไม่ถูกครอบงำ ทั้งนี้ ขอให้ทางสภาผู้แทนราษฎรหยิบยกข้อเสนอทั้ง 7 ประการเข้าสู่การพิจารณา เพื่อให้เกิดการปฏิรูปการเมือง ซึ่งจะทำให้เกิดประโยชน์ต่อประชาชนและประเทศชาติ
น.ส.รสนา กล่าวถึงมติของพรรคพลังประชาชนยังคงยืนยันส่งนายสมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรคพลังประชาชนขึ้นดำรงตำแหน่งนายกฯ อีกครั้ง ว่า สาเหตุที่ทางกรรมาธิการเสนอแนะคุณสมบัติ เพราะต้องการเตือนสติให้สภาฯ ได้คำนึงถึงสภาวการณ์ที่ไม่ปกติในขณะนี้ รวมทั้งสภานิติบัญญัติต้องช่วยกันแก้ปัญหาและตั้งสติในเรื่องนี้
เมื่อถามว่า ส.ว.เห็นด้วยกับแนวคิดจัดตั้งรัฐบาลแห่งชาติหรือไม่ น.ส.รสนา กล่าวว่า ขณะนี้ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องจัดตั้งรัฐบาลแห่งชาติ ประเทศจำเป็นต้องมีฝ่ายตรวจสอบ จึงเห็นว่าควรยึดแนวทางตามระบอบรัฐสภาเหมือนเดิม

เครดิต : http://www.thairath.co.th/online.php?section=newsthairathonline&content=103832

จัดทำโดย

น.ส.ผาณิตตา ศรีวงษ์ 5131601126 น.ส.อมรรัตน์ จิรนนท์วงศ์ 5131601208
นายอนุชา พวงมณี 5131601205 น.ส.เสาวรส รักแก้ว 5131202087
น.ส.รจนา วงษารัตน์ 4931601817 นายเจษฎา เอื้อเฟื้อ 5131601027
น.ส.จุรีย์พร จันทร์แก้ว 5131601025 นายชัชชัย รักสันติสุข 5131601038
นายนเรศ วงศ์ชัยพาณิชย์ 5131601097 น.ส.จุรีรัตน์ อูปซาง 5131205227
น.ส.สุปราณี สุริยะจันทร์ 5131601201

วันจันทร์ที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2551

นับถอยหลัง “หมัก” ตกเก้าอี้ ศาลนัดชี้ชิมไปฯ พรุ่งนี้ 14.00 น.

“หมัก” ให้การมัดคอตัวเองกรณีลูกจ้างชิมไปบ่นไป ต่อหน้าองค์คณะตุลาการ ศาล รธน.ไม่รีรอสั่งฟังคำวินิจฉัยทันทีพรุ่งนี้ เวลา 14.00 น.
วันนี้ (8 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานภายหลังศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งบัลลังก์ รับฟังคำชี้แจงของนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี และนายศักดิ์ชัย แก้ววันณี กรรมการผู้จัดการบริษัท เฟซ มีเดีย จำกัดในคำร้องที่ประธานวุฒิส่งความเห็นสมาชิกวุฒิสภาขอให้วินิจฉัยการสิ้นสุดความเป็นรัฐมนตรี กรณีการจัดรายการชิมไปบ่นไป และยกโขยง 6 โมงเช้า ว่าขัดต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 182 วรรค 1 (7) และมาตรา 267 ประกอบมาตรา 82 วรรค 3 และมาตรา 91 หรือไม่ โดยศาลได้นัดฟังคำวินิจฉัยในวันพรุ่งนี้ (9 ก.ย.) เวลา 14.00 น.
อย่างไรก็ดีก่อนหน้านี้ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศที่ศาลรัฐธรรมนูญ เมื่อเวลา 09.30 น.คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญที่มี นายชัช ชลวร เป็นประธานได้ออกนั่งบัลลังก์ ไต่สวนพยานผู้ถูกร้องในคำร้องที่ประธานวุฒิสภาส่งคำร้องของนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนา ส.ว.สรรหาและคณะส.ว. รวมทั้งคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยการสิ้นสุดความเป็นรัฐมนตรี ของนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี เนื่องจากเป็นพิธีกรดำเนินรายการ "ชิมไปบ่นไป" ตามรัฐธรรมนูญ 2550 มาตรา 182 วรรคหนึ่ง (7) และมาตรา 267 ประกอบ 182 วรรคสาม และมาตรา 91 โดยพยานผู้ถูกร้องมี 2 ปากคือ นายศักดิ์ชัย แก้วมณีสกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท เฟซ มีเดีย จำกัด และนายสมัคร
ทั้งนี้ นายสมัคร ได้ขึ้นให้การโดยระบุว่า ได้เริ่มทำรายการ ชิมไปบ่นไป ตั้งแต่ปี 2543 โดยบริษัท เฟซมีเดีย จำกัด ได้มาชวนให้เป็นพิธีกร หลังจากนั้นก็ทำมาตอลด จนกระทั่งรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ในวันที่ 6 ก.พ. 2551 และหลังจากนั้นก็ได้บันทึกเทปรายการดังกล่าว 2-3 ครั้ง ซึ่งการบันทึกเทปครั้งหนึ่งก็สามารถนำไปออกอากาศได้ 1 เดือน โดยตนไม่ได้เรียกร้องค่าตอบแทน และไม่ได้รับค่าตอบแทนแต่อย่างใด
นายสมัคร ให้การว่า ทางบริษัทได้จ่ายค่าน้ำมันและค่ากับข้าวให้กับคนขับรถของตน ซึ่งรายละเอียดนั้น เขาจะนำไปใช้จ่ายอย่างไรตนไม่ทราบ และหลังจากที่มีคนทักท้วงว่า อาจขัดต่อรัฐธรรมนูญ ตนก็ไม่ทำรายการดังกล่าวอีก โดยบอกให้รายการหาพิธีกรมาแทน แต่ที่ทำอยู่เพราะทนายบอกว่า เนื่องจากเป็นการรับจ้างไม่ใช่ลูกจ้าง จนกระทั่งมีข่าวลงตามหนังสือพิมพ์ ตนก็สั่งระงับการออกอากาศทันที รวมทั้งให้เก็บเทปบันทึกรายการ กลัวสถานีนำไปออกอากาศซ้ำอีก
นายสมัคร กล่าวเพิ่มเติมว่า "ถ้าตนผิดจริง อย่าให้ตนไม่มีความเจริญ แต่ถ้าไม่ได้ทำผิด ก็ขอให้ตนได้รับความสุขความเจริญ" เป็นที่น่าสังเกตุว่า ระหว่างขึ้นให้การต่อศาลนั้นนายสมัคร ได้มีท่าทีในการตอบคำซักถามของนายเรืองไกร ลิกิจวัฒนะ ส.ว.ระบบสรรหา ผู้ที่ร้องเรียนเรื่องดังกล่าวอย่างแข็งกร้าว พร้อมกับได้ยอกย้อนตอบคำถามเป็นบางคำถามอย่างดุดัน
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ภายหลังจากนายสมัคร ให้การต่อผู้ร้องเสร็จสิ้นแล้ว ทางองค์คณะตุลาการรัฐธรรมนูญ ได้สอบถามในประเด็นที่ยังสงสัย เพื่อต้องการให้พยานยืนยัน หรือ ปฎิเสธ โดยศาลได้สอบถามนายสมัคร ว่า คนขับรถได้แจ้งพยานเกี่ยวกับเรื่องค่าตอบแทน หรือไม่ และ คนขับรถได้นำเงินไปใช้ในเรื่องใดบ้าง นายสมัคร ตอบว่า ไม่ทราบและไม่รู้ว่านำไปใช้เรื่องใด โดยนายสมัคร จะอธิบายเกี่ยวกับคนขับรถ ศาลได้ติงว่า ไม่จำเป็นต้องนำประเด็นข้อกฎหมาย มาหักล้างข้อเท็จจริง
นอกจากนั้น ระหว่างที่ศาลถาม และยังถามไม่จบ นายสมัคร พยายามพูดแทรกออกมา ศาลต้องติงว่า ขอให้ฟังคำถามให้จบก่อน ทำให้นายสมัคร ถึงกับแสดงอาการไม่พอใจ ศาลได้ถามอีกว่า หลังเกิดเป็นคดีขึ้น พยาน(นายสมัคร)ได้ไปอัดเทปรายการที่บ้านของพยานและไม่ยอมให้สื่อมวลชนทำข่าว ใช่หรือไม่ นายสมัคร ตอบว่าใช่ โดยอ้างว่า ไม่ต้องการให้วุ่นวายและตัดเรื่องค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับคนขับรถ โดยศาลถามว่า หลังจากอัดรายการที่บ้านแล้ว คนขับรถยังได้รับค่าตอบแทนอยู่หรือไม่ นายสมัคร ตอบว่า ใช่เนื่องจากเป็นเรื่องที่คนขับรถต้องใช้จ่าย แต่ไม่เกี่ยวกับตน
อย่างไรก็ตาม ในระหว่างที่ศาลได้สอบถาม เกี่ยวกับพยานเอกสารที่ได้จากการถอดเทปรายการ สนทนาประสาสมัคร เพื่อให้พยานยืนยันว่า เป็นเอกสารที่ถูกต้องหรือไม่ พยานได้ถาม ศาลว่า แล้วมาเกี่ยวอะไรกับคดีนี้ ศาลแจ้งว่า เนื่องจาก พยานได้พูดเป็นข้อเท็จจริงในรายการเกี่ยวกับคดีนี้ไว้ จึงจำเป็นต้องนำมาประกอบการพิจารณา ทำให้นายสมัคร ทำเสียง อือ อือ และมีอาการไม่พอใจ ศาลยังได้ถามถึงเรื่อง ภาพโลโก้ รูปผู้ชายที่มีลักษณะจมูกรูปชมพู่ โดยศาลถามว่า เป็นรูปของพยานใช่หรือไม่ นายสมัคร ตอบว่าใช่ และอธิบายว่า เป็นรูปของตนที่คนทั้งประเทศรับรู้มาตั้งหลายปีแล้ว
จนกระทั่งนายสมัครให้การเสร็จเมื่อเวลาประมาณ 10.30 น. นายสมัคร ได้ขออนุญาตศาลออกจากห้องพิจารณาคดีเพื่อไปปฏิบัติภารกิจทันที และขึ้นรถออกไปจากศาลรัฐธรรมนูญอย่างรวดเร็ว
เครดิต :www.sappasan.com/viewtopic.php?f=72&t=659 - 22k
โดย :
น.ส.เสาวรส รักแก้ว 5131202087 น.ส.รจนา วงษารัตน์ 4931601817
นายอนุชา พวงมณี 5131601205 น.ส.สุปราณี สุริยะจันทร์ 5131601201
นายเจษฎา เอื้อเฟื้อ 5131601027 น.ส.จุรีย์พร จันทร์แก้ว 5131601025
นายชัชชัย รักสันติสุข 5131601038 น.ส.ผาณิตตา ศรีวงษ์ 5131601126
นายนเรศ วงศ์ชัยพาณิชย์ 5131601097 น.ส.อมรรัตน์ จิรนนท์วงศ์ 5131601208
น.ส.จุรีรัตน์ อูปซาง 5131205227

วันพฤหัสบดีที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2551

ภาพมือที่สามวันที่ นปช. ปะทะ พันธมิตรฯ

ภาพบันทึกจากกล้องของโทรทัศน์ BBC เป็นชายฉกรรจ์อยู่ในมุมมืด คาดว่าใช้อาวุธปืนยิงเข้ามาในกลุ่มม็อบ นปช. ที่กำลังบุกเข้าไปปะทะกับการ์ดพันธมิตรฯ ที่บริเวณเชิงสะพานมัฆวานรังสรรค์ ช่วงย่างเข้าวันใหม่ 2 กันยายนที่ผ่านมา ซึ่งมีเสียชีวิต 1 ศพ บาดเจ็บมากกว่า 40 คน
เครดิต : http://hilight.kapook.com/view/28504

โดย :
น.ส.เสาวรส รักแก้ว 5131202087 น.ส.รจนา วงษารัตน์ 4931601817
นายอนุชา พวงมณี 5131601205 น.ส.สุปราณี สุริยะจันทร์ 5131601201
นายเจษฎา เอื้อเฟื้อ 5131601027 น.ส.จุรีย์พร จันทร์แก้ว 5131601025
นายชัชชัย รักสันติสุข 5131601038 น.ส.ผาณิตตา ศรีวงษ์ 5131601126
นายนเรศ วงศ์ชัยพาณิชย์ 5131601097 น.ส.อมรรัตน์ จิรนนท์วงศ์ 5131601208
น.ส.จุรีรัตน์ อูปซาง 5131205227

วันจันทร์ที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2551

พันธมิตรกินไม่อั้น! ขยะท่วม ส้วมเต็ม ขี้ใส่ถุง


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่พันธมิตรปักหลักยึดทำเนียบรัฐบาลชุมนุมยืดเยื้อติดต่อกัน เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม เข้าสู่วันที่ 5 ผู้ชุมนุมเริ่มประสบปัญหาสุขภาวะ เนื่องจากมีคนเข้ามาจับจองพื้นที่ว่างในทำเนียบตั้งเต็นท์พักอาศัยเป็นจำนวนมาก จนเกิดสภาพคล้ายชุมชนแออัด นอกจากนี้ จำนวนสุขายังไม่เพียงพอ ส้วมบางแห่งเต็ม ใช้การไม่ได้ ทำให้ผู้ชุมนุมบางส่วนต้องหาที่ขับถ่ายตามมีตามเกิด บางคนถึงกับอุจจาระใส่ถุงดำ แต่ส่วนใหญ่มักใช้พื้นที่ลับตา เช่น ซอกตึกสันติไมตรี ด้านหลังตึกบัญชาการ แม้กระทั่งหลังรังนกกระจอกใหม่ ซึ่งเป็นที่ทำงานของสื่อมวลชนเพื่อปัสสาวะ ทำให้เกิดกลิ่นคละคลุ้งไปทั่ว
ขณะที่อาหารเครื่องดื่มของกลุ่มพันธมิตรก็มีการแจกจ่ายให้ผู้มาชุมนุมอย่างไม่ขาด ทั้งนี้ พนักงานจัดเก็บขยะของ กทม. ที่เข้ามาพร้อมรถขนถ่ายขยะ เปิดเผยว่า ทาง กทม.ได้จัดส่งรถมาขนขยะจากการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรทั้งหมดวันละ 10 คัน ด้านทำเนียบ 4 คัน สะพานมัฆวาน 4 คัน และรอบนอกอีก 2 คัน โดยจะเข้ามาขนขยะวันละ 2 ช่วง คือช่วงเช้า และช่วงเย็น โดยแต่ละคันจะวิ่งวนมาขนหลายรอบ โดยขยะส่วนใหญ่มักเป็นขยะเปียก เช่น เศษอาหาร กล่องโฟม ถุงขนม และขวดน้ำ ทั้งนี้ รถขนขยะแต่ละคันสามารถขนขยะได้เที่ยวละ 3 - 4 ตัน แต่ละวันผู้ชุมนุมพันธมิตรทิ้งขยะไม่ต่ำกว่าวันละ 80 ตัน
ขณะที่ ผู้ชุมนุมส่วนใหญ่เริ่มมีปัญหาด้านสุขภาพ เนื่องจากความเครียดสะสม และต้องชุมนุมท่ามกลางสายฝนติดต่อกันหลายคืน โดยเจ้าหน้าที่พยาบาลสาวของพันธมิตรรายหนึ่ง เปิดเผยว่า พันธมิตรได้เพิ่มเต็นท์พยาบาลเป็น 5 จุด ในทำเนียบ มีบริเวณด้านหน้าตึกสันติไมตรี บริเวณประตู 7 ขณะที่ภายนอกมี 3 จุด เรียงรายตั้งแต่สะพานมัฆวานไปจนถึงแยกมิสกวัน ทั้งนี้ ยาส่วนใหญ่ที่ผู้ชุมนุมมาขอ มักเป็นยาแก้เจ็บคอ หรือยาแก้ไข้ เนื่องจากตากฝนหลายวัน ขณะที่วานนี้เริ่มมีผู้ชุมนุมมาขอยาแก้ท้องเสียเป็นจำนวนมาก โดยมีอยู่รายหนึ่งถึงกับต้องนำตัวส่งโรงพยาบาล แต่ทั้งนี้ไม่ทราบว่ามาจากอาหารที่พันธมิตรแจกจ่ายหรือไม่ นอกจากนี้ ยาแก้แพ้ก็มีคนมาขอเป็นจำนวนมาก เนื่องจากหญ้าหน้าสนามไทยคู่ฟ้าเริ่มเน่า ทั้งนี้ ยาที่หน่วยพยาบาลได้แจกจ่ายให้กับผู้ชุมนุมมากที่สุด คือ ยาดม เพราะแฟนพันธุ์แท้ของพันธมิตรส่วนใหญ่มักเป็นผู้สูงอายุ
นอกจากนี้ หน่วยพยาบาลยังเตรียมการไว้รองรับหากตำรวจจะใช้แก๊สน้ำตาเพื่อสลายการชุมนุม โดยเตรียมผ้าเย็นไว้แจกจ่ายเป็นจำนวนมาก
โดย : นางสาวสุปราณี สุริยะจันทร์ 5131601201 นางสาวจุรีรัตน์ อูปซาง 5131205227
นางสาวจุรีย์พร จันทร์แก้ว 5131601025 นายนเรศ วงศ์ชัยพาณิชย์ 5131601097
นางสาวเสาวรส รักแก้ว 5131202087 นางสาวผาณิตตา ศรีวงษ์ 5131601126
นายอนุชา พวงมณี 5131601205 นางสาวรจนา วงษารัตน์ 4931601817
นายเจษฎา เอื้อเฟื้อ 5131601027 นางสาวอมรรัตน์ จิรนนท์วงศ์ 5131601208
นายชัชชัย รักสันติสุข 5131601038

กปน.-กปภ.มีมติตัดน้ำสน.กระทรวงทบวงกรม

กปน. - กปภ. มีมติตัดน้ำ สน. กระทรวง ทบวง กรม นัดหยุดงานตั้งแต่พรุ่งนี้ เมื่อเวลา 21.00 น. สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ การประปานครหลวง (กปน.)ได้ขึ้นเวทีพันธมิตรฯประกาศจุดยืนจากการที่สมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ ประกาศเข้าร่วมการชุมนุมกับกลุ่มพันธมิตร โดยเห็นด้วยกับ พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี อดีต รองผอ. กอ.รมน. ที่ระบุว่าไม่ควรตั้งรับอีกต่อไปและต้องปฏิบัติการเชิงรุก ถึงแม้รัฐบาลจะใช้ความสงบสยบความเคลื่อนไหว อย่างไรก็ตามพวกนักการเมืองชั่วช้ามักจะแพ้ทางทหาร ดังนั้นจึงขอหนุนให้ทหารทำปฏิวัติซึ่งสหภาพแรงงาน กปน. ขอแถลงการณ์และประกาศจุดยืนอยู่ข้างพันธมิตรฯ ดังนี้คือ 1. สหภาพ กปน. มีมติให้สมาชิกเข้าร่วมชุมนุมกับพันธมิตรฯจนกว่านายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี จะลาออก 2.ขอประณามพฤติกรรมที่มีการสั่งการให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติใช้ความรุนแรงในการสลายการชุมนุม 3.มีมติให้สั่งระงับการใช้น้ำแก่หน่วยราชการกระทรวง ทบวง กรม ต่างๆ และ 4.ให้สมาชิกสหภาพ กปน. ลาหยุดงานเพื่อเข้าร่วมการชุมนุมตั้งวันที่ 1 ก.ย. เป็นต้นไป จากนั้นประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) ได้ขึ้นประกาศแถลงการณ์เรียกร้องให้สมาชิกสหภาพเข้าร่วมชุมนุมกับพันธมิตรฯตามมติของสรส. เพราะสถานการณ์บ้านเมืองเกิดความวุ่นวายจากการบริหารงานของรัฐบาล จึงมีมติดังนี้ 1.สหภาพ กปภ.จะติดตามพฤติกรรมของรัฐบาลที่จะใช้ความรุนแรงกับผู้ชุมนุมโดยจะงดการจ่ายน้ำให้กับส่วนราชการทั่วประเทศที่ค้างชำระกับ กปภ. โดยจะพิจารณาเฉพาะหน่วยงานในสังกัด สำนักงานตำรวจแห่งชาติ 2.สนับสนุนให้สมาชิกเข้าร่วมกับพันธมิตรฯ และ 3.ขอให้สมาชิกให้ความร่วมมือและลาหยุดงานเข้าร่วมการชุมนุมตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย. เมื่อเวลา 21.20 น. แกนนำพันธมิตรฯ ขึ้นเวทีปราศรัย โดย พล.ต.จำลอง ศรีเมือง ขึ้นปราศรัยคนแรก ใจความระบุว่าภาพโดยรวม กลุ่มพันธมิตรฯ กำลังจะได้รับชัยชนะแล้ว ขอให้ผู้ร่วมชุมนุมมั่นใจ ทั้งนี้จะเห็นได้ว่าตัวแทนสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ ต่างออกมาร่วมสนับสนุนกลุ่มพันธมิตร นั้นเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าคนส่วนใหญ่นั้นไม่สามารถจะทนกับรัฐบาลชุดนี้ได้อีกแล้ว นอกจากนี้ พล.ต.จำลอง ยังได้พูดปลุกเร้าผู้ร่วมชุมนุมที่บริเวณทำเนียบรัฐบาล และผู้ที่ชมการถ่ายทอดจากเอเอสทีวี ด้วยการอ้างถึงเหตุการณ์ที่รัฐบาลใช้ความรุ่นแรงกับประชาชนในวันที่ 29 สิงหาคมที่ผ่านมาอีกด้วยต่อมาเวลา 22.00 น. นายพิภพ ธงไชย หนึ่งในแกนนำ พธม. ขึ้นเวทีปราศรัยโดยได้ให้คนที่ไม่ได้ออกมาร่วมชุมนุมที่ทำเนียบรัฐบาล แต่มีแนวคิดทางเดียวกับ พธม. ให้ออกมาชุมนุมตามสี่แยกไฟแดงทันที หากว่าแกนนำทั้ง 9 คนโดนจับกุมตัว นอกจากนี้ยังประกาศถึงชัยชนะที่ กลุ่ม พธม.ชุมนุมครบ 99 วัน โดยใช้แนวทางอหิงสา ไม่มีอาวุธ มีเพียงมือเปล่าเท่านั้นแต่ก็ยังสามารถยึดทำเนียบรับบาลได้ โดยที่รัฐบาลยังไม่มีมาตราการที่จะปราบปรามกลุ่มพันธมิตร แต่อย่างไรก็ตามก่อนที่รัฐบาลจะมีมาตราการออกมาปราบปรามก็ต้องชิงลงมือเสียก่อน ทั้งนี้ยังให้ความมั่นใจกลุ่มผู้ชุมนุมด้วยว่า ไม่ต้องเกรงกลัวหากรัฐบาลจะใช้กำลังเข้าสลายการชุมนุมเพราะว่ารัฐวิสาหกิจทั้งนำและไฟ พร้อมที่จะตัดน้ำและไฟหน่วยงานราชการทันทีหากเกิดมีการใช้กำลัง อีกทั้งสื่อทั่วโลกก็จะเสนอข่าวออกไปนั่นหมายความความว่าหากรัฐบาลชุดนี้ใช้กำลังสลายการชุมนุมก็จะเป็นการประจานตัวเอง นายพิภพ ระบุอีกว่าการชุมนุมขับไล่รัฐบาลชุดนี้เป้าหมายไม่ใช่การขับไล่นายสมัคร สุนทรเวช แต่เป็นตัวบงการใหญ่ที่อยู่เบื้องหลัง คือ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อีกทั้งหากการชุมนุมครั้งนี้สำเร็จขอให้ชาวบ้านที่ยากไร้ในสลัม กรรมกร ชาวไร่ ชาวนา มั่นใจได้ว่าชีวิตของทุกคนจะมีความสุขขึ้น เพราะหลังจากนี้ไปจะไม่มีนักการเมืองที่เลว คอรัปชั่น ไปบริหารราชการแผ่นดินได้ เพราะหลังจากนี้ไปการเมืองในประเทศไทยจะเป็นการเมืองใหม่ ไม่มีข้าราชการ นักการเมืองเข้าไปกอบดกยผลประโยชน์

จัดทำโดย
น.ส.รจนา วงษารัตน์ 4931601817 นายอนุชา พวงมณี 5131601205
น.ส.เสาวรส รักแก้ว 5131202087 นายเจษฎา เอื้อเฟื้อ 5131601027
น.ส.จุรีย์พร จันทร์แก้ว 5131601025 นายชัชชัย รักสันติสุข 5131601038
น.ส.ผาณิตตา ศรีวงษ์ 5131601126 นายนเรศ วงศ์ชัยพาณิชย์ 5131601097
น.ส.อมรรัตน์ จิรนนท์วงศ์ 5131601208 น.ส.จุรีรัตน์ อูปซาง 5131205227
น.ส.สุปราณี สุริยะจันทร์ 5131601201