เว็บบล็อกนี้จัดทำขึ้นเพื่อใช้ในการเรียนวิชาการเมืองและการปกครอง มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง

วันพฤหัสบดีที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2551

ภาพมือที่สามวันที่ นปช. ปะทะ พันธมิตรฯ

ภาพบันทึกจากกล้องของโทรทัศน์ BBC เป็นชายฉกรรจ์อยู่ในมุมมืด คาดว่าใช้อาวุธปืนยิงเข้ามาในกลุ่มม็อบ นปช. ที่กำลังบุกเข้าไปปะทะกับการ์ดพันธมิตรฯ ที่บริเวณเชิงสะพานมัฆวานรังสรรค์ ช่วงย่างเข้าวันใหม่ 2 กันยายนที่ผ่านมา ซึ่งมีเสียชีวิต 1 ศพ บาดเจ็บมากกว่า 40 คน
เครดิต : http://hilight.kapook.com/view/28504

โดย :
น.ส.เสาวรส รักแก้ว 5131202087 น.ส.รจนา วงษารัตน์ 4931601817
นายอนุชา พวงมณี 5131601205 น.ส.สุปราณี สุริยะจันทร์ 5131601201
นายเจษฎา เอื้อเฟื้อ 5131601027 น.ส.จุรีย์พร จันทร์แก้ว 5131601025
นายชัชชัย รักสันติสุข 5131601038 น.ส.ผาณิตตา ศรีวงษ์ 5131601126
นายนเรศ วงศ์ชัยพาณิชย์ 5131601097 น.ส.อมรรัตน์ จิรนนท์วงศ์ 5131601208
น.ส.จุรีรัตน์ อูปซาง 5131205227

21 ความคิดเห็น:

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

การชุมนุมและการยึดหน่วยงานรัฐบาลมันไม่ใช่ทางออกสุดท้าย การลาออกก็ไม่ใช่ทางออกสุดท้าย กลไกทางการเมือง มันมีกฎของมันอยู่ ฝ่ายค้านก็มี กฎหมายก็มี ลองทำประชาพิจารณ์ ถามคนทั้งประเทศดู ว่าต้องการให้ประเทศของตัวเอง ถูกชักใยโดน แกนนำ 9 คน หรือ จะให้ประเทศกลับมาอยู่ในระบบที่ถูกต้อง ไม่ต้องกลัวว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรมหรอก ดูทักษิณสิ สุดท้ายก่อยู่ไทยไม่ได้ แน่แค่ไหนกันเชียว รัฐบาลสมัครถ้าไม่ดีจริง คุณคิดหรือว่าจะต้องถึงมือประชาชน ฝ่ายค้านมันจ้องตลอดอยู่แล้ว คุณมาร์คอ่ะ ตอนนี้เอะอะก็บอกทางเดียวคือนายกต้องลาออก ถ้า รัฐบาลทำผิดจริง ไม่ต้องถึงมือพันธมิตรหรอก แค่มาร์คคนเดียวก็ล้มรัฐบาลได้แล้ว ทุกอย่างมันมีกฎของมันอยู่ คุณจะเชื่อใคร " กฎหมู่ที่ตั้งกันเอง เพื่อผลประโยชน์ของคนกลุ่มหนึ่ง หรือกฎหมายที่เป็นที่ยอมรับของคนทั้งประเทศ " ขนาดศาลตัดสินแล้ว คนกลุ่มหนึ่งยังไม่ยอมรับ ขนาดไอ่ทักษิณว่าเลวแล้ว มันยังยอมรับ มันกลัวศาล มันเลยหนีไปอยู่เมืองนอก แต่คนกลุ่มนึง ไม่สนใจ ไม่หนี ไม่ให้จับ คนมีสมองก็คิดเอาเองแล้วกัน

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

1. ถ้านายกสมัครยุบสภาหรือลาออก ก็ต้องจัดให้มีการเลือกตั้งใหม่ ถ้าพรรคเสียงข้างมากที่ร่วมกันจัดตั้งรัฐบาลไม่ใช่พรรคประชาธิปัตย์ พธม จะออกมาหาเรื่องก่อม็อบอีกหรือไม่ จะว่าอย่างไร
2. พธม อ้างว่าต้องการทำการเมืองใหม่ โปรดพูดให้ชัดเจนว่าจะทำอะไรใหม่บ้าง ใช้วิธีใด หรือช่องทางใด
3. พธม เป็นเครื่องมือของที่มองไม่เห็น ที่ต้องการล้มทักษิณและพรรคพวก เพราะมีความเชื่อว่าทักษิณอยากเป็น ประธานาธิบดี โดยอาศัยวิธีการหลายวิธี เช่น อาศัย คตส.และสถาบันตุลาการรวมทั้งม็อบ หรือไม่
4. ทำไม พธม จึงคิดว่าจะสามารถแก้ รธน.เพื่อทำการเมืองใหม่ได้ตามที่อ้าง แล้วคิดหรือว่าจะได้นักการเมืองที่ดีอย่างที่พูด เอามาจากไหนบ้าง ประชาชนส่วนใหญ่เขาเชื่อท่านหรือไม่

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

เรื่องเล่า...จากผู้ชุมนุม พธม.
เสียงจากผู้ชุมนุมบอกว่า ถ้าไม่มีเส้นมีสายใน พธม. อย่าริอาจเข้าไปชุมนุม ขอให้คนที่คิดจะเข้าไป หลับตานึกถึงสภาพในคุก ในวันแรกก็ไม่รู้สึกอะไร สนุกไปกับเขา พอข้ามคืนไปแล้วจะเริ่มเห็นสภาพตัวเองถูกกักขัง ไม่มีอิสระเสรี จะซื้อหาอะไรก็ไม่ได้ กลิ่นเหม็นก็เต็มไปหมด เสียงก็ดังตลอดเวลา อยากจะกินก็ไม่มีที่ซื้อ อยากนอนก็ลำบาก จะออกจากที่นั่นก็ไม่ได้ ต้องเจอกับกาดที่เหมือนกับโจรกันไว้ ไม่ให้ออก นั่นคือเหมือนติดคุกดีๆ นี่เอง ยกเว้นมีพวก ก็จะมีสิทธิ์พิเศษ ตอนนี้ทุกคนหวังให้รัฐเข้าสลายการชุมนุมโดยเร็ว ด้วยเหมือนตกนรกทั้งเป็นในที่นั้น...แต่ขอเตือนเจ้าหน้าที่ว่า ถ้าคิดจะสลายการชุมนุม ไม่ควรไปกับโล่อย่างเดียว เพราะกาดมีอาวุธ มีปืน อันตรายเกินไป แต่ขอให้รืบๆ มาช่วยพวกเราด้วย เราเข็ดแล้วจริงๆ เหมือนขี่หลังเสือ ลงไม่ได้.....ช่วยเราด้วย
ส่งข่าวให้แล้วน้า...ผู้ชุมนุม ที่เหลือก็แล้วแต่เวรแต่กรรมน้า....ทำได้แค่นี้แหละ

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

น่าเบื่อ ให้ผมเลือก ผมไม่เลือกหรอกว่าจะข้างไหน เพราะคนไทยเหมือนกาน
แต่อยากให้ปัญหามันจบลงเร้วๆๆๆๆ ทำไรสักก้อได้ เบื่อมากมายที่เปนแบบนี้

ไงก้อขอให้มันจบเร็วๆๆๆล่ะกันน่ะคับ
จะได้แฮปปี้กันถ้วนหน้า.................

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

นปช. ถูกยิงเห็นๆ ถ้า พธม. ถูกยิงคงเรียกร้องหาฆาตกรกันให้วุ่นบ้านเมืองแล้ว แค่เอารูปตัดต่อปืนจ่อหัวทำยังกับจะเป็นจะตาย

นปช.ตายไม่มีใครเรียกร้องหาฆาตรกรรับผิดชอบ ก็อย่างว่า คนเรามันแบ่งชั้นวรรณะ ชีวิต นปช. มันก็แค่ผักปลา ไม่เหมือนเทวดาอย่าง พธม. น่ารักเกียจจริงๆ

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ผมคิดว่า ใครๆก็อยากเห็นสันติภาพในประเทศครับ แต่ถ้าเรากลัวบ้านเมืองวุ่นวาย แล้วปล่อยให้นักการเมืองที่ฉ้อราษฎร์บังหลวง โกงกิน โดยที่คนไทยยังอยากมี "สันติ" ไม่ทำอะไร ผมคิดว่า มันก้ไม่ถูกต้อง ผมไม่ได้เห็นด้วยว่า พธม. ทำถูกทุกอย่าง เพียงแต่ผมเป็นคนหนึ่งที่รู้สึกว่า นักการเมืองไทย ถ้ารวยมีเงิน ทำอะไรผิด ก็จะไม่ผิด ไม่มีอะไรเอาผิดพวกเค้าได้ อย่างเช่น เขาพระวิหาร หรือการลี้ภัยไปเสวยสุข เป็นต้น ถ้าเราต้องการแต่สันติ ไม่อยากเห็นคนทะเลาะกัน เรื่องโกงกินแบบนี้ก็คงต้องปล่อยผ่าน ผมมองว่า สันติ อาจจะไม่ใช่คำตอบสุดท้ายสำหรับบ้านเรา ผมอยากให้ทุกคนคิดอย่างมีสติ เลือกความถูกต้องมากกว่า ถ้าไม่รู้ว่าอะไรถูกหรือผิด ลองศึกษาธรรมพระพุทธเจ้า แล้วนำคำสั่งสอนมาเป็นแนวทางพิจารณา ผมคิดว่า เราก็จะตัดสินใจได้ว่า ถูกผิดอยู่ที่ตรงไหน

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ประชามติ อาจจะช่วยแก้ไขได้แต่คนที่ทำประชามติต้องเคารพ กฏ กติกา

แต่ที่เราเล่นด้วยมันคือพวกเศษดินปั้นหมาเหลือพันธมิตรไม่เคารพกฎหมาย

ถ้าเสียงส่วนใหญ่เลือก แต่ไอสนิมส้วมพันธมิตรมันไม่พอใจผมว่ามันก็ไม่แยกย้ายอยู่ดี

ส่งผลกระทบต่อประชาชนที่เป็นกลางที่ต้องมานั่งดูประเทศชาติที่รักและหวงแหนค่อยๆพังไปต่อหน้าต่อตาเพราะไอพวกเศษเดนมนุษย์ไม่กี่ตัวอย่างนั้นเหรอ (ส่วนตัว)

ใครมีวิธีเสนอทางออกก็บอกละกัน

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

พันธมิตรรับไม่ได้หรอก เพราะถ้าประชาชนเห็นชอบกับรัฐบาลนั่นหมายถึงพันธมิตรต้องยุติการชุมนุม ซึ่งการยุติการชุมนุมนั้นแกนนำทั้ง 9 คน ก็หมดที่พี่งพา หมดโล่ห์มนุษย์ ถูกดำเนินคดีทางกฎหมาย ถ้าเป็นพวกท่านล่ะจะยอมไหม

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

รัฐบาลต้องการสร้างความชอบธรรมให้ตัวเองไง...

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

http://luckypacific.directtrack.com/z/6712/CD120/

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ถ้าคนไทยหันมาทำร้ายกันเองไม่สามัคคีกันไม่รักกัน
แล้วใครจะมารักและดูแลประเทศไทยอ่ะ ตอนนี้มันเกินไปแล้วนะจะอยู่เหนือกฎหมายกันหมดแล้วนะครับ

เรารักในหลวงเหมือนกันก็ต้องรักสิไม่ใช้แบบนี้

ความรุนแรกมีมากว่าที่ข่าวนำมาออกเยอะคนเจ็บ
คนตายนะมีเยอะแล้วแล้วก็จะยิ่งเยอะขึ้นถ้าฝ่ายใด
ฝ่ายหนึ่งไม่หยุด

ผมไม่อยากเห็นคนไทยทำร้ายกันเองนะครับ

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

มือที่สามที่ก่อให้เกิดความไม่สงบหรือรุนแรง เพื่อที่จะได้ฉวยโอกาส ประกาศใช้ภาวะฉุกเฉิน โห่ๆๆ แผนร้ายซะจริงท่านนายก

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

คนไทยดูเหมือนว่าการศึกษาไม่ได้ช่วยอะไรเลย หรือศึกษาเยอะเกินไป เลยลืมวิธีสันติ ต้องยิงกันแบบนี้

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

คนไทยครับ ช่วยสำนึกความเป็นไทยกันหน่อยครับ ยังอยากมีเอกราชกันอยู่หรือเปล่าครับ หรือว่าต้องให้เหมือนต่างชาติ พ่อแม่ปู่ย่าจะคิดยังไง ถ้ารู้ว่าลูกหลานทำเลวกับประเทศได้ขนาดนี้ล่ะครับ

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

พล.ต.ท.วิเชียรโชติสุกโชติรัตน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) นัดเฉพาะกิจ ที่กองบัญชาการกองทัพไทย เมื่อวันที่ 4 กันยายน

ว่า สำนักนายกรัฐมนตรีจำเป็นต้องออกประกาศตามพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (พ.ร.ก.ฉุกเฉิน) อีก 2 ฉบับ จึงต้องเรียกประชุม ครม.ให้ รับทราบและเห็นชอบตามประกาศนี้ภายใน 3 วัน

ประกาศฉบับแรกคือการจัดตั้งกองอำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุก เฉิน หรือ กอฉ. โดยผ่านความเห็นชอบของ ครม. ทั้งนี้ นายสมัคร สุนทรเวช นายก รัฐมนตรี จึงมีคำสั่งจัดตั้ง กอฉ.ขึ้น

โดย กอฉ.ประกอบด้วย ผู้บัญชาการทหาร บก เป็นผู้อำนวยการ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นรองผู้อำนวยการ แม่ทัพภาค ที่ 1 เป็นรองผู้อำนวยการ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม รองปลัดกระทรวง มหาดไทย รองปลัดกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร อธิบดีกรมป้องกันและ บรรเทาสาธารณภัย

อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ อธิบดีกรมสารนิเทศ ปลัดกรุงเทพมหา นคร ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล รองเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ รองผู้อำนวย การสำนักข่าวกรองแห่งชาติ ผู้บัญชาการศูนย์รักษาความปลอดภัย กองบัญชาการกอง ทัพไทย และผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตามความจำเป็น

ผู้ช่วยเสนาธิการทหารบกฝ่ายยุทธการเป็นกรรมการและ เลขานุการ เสนาธิการกองทัพภาคที่ 1 เป็นกรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ ข้า ราชการตำรวจ และข้าราชการพลเรือนตามผนวก เป็นเจ้าหน้าที่ รวมทั้ง สิ้น 19 ตำแหน่ง

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

กอฉ.มีอำนาจหน้าที่ดังนี้

1.เป็นหน่วยงานปฏิบัติหน้าที่ตามพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน

2.จัดให้มีหน่วยงานหรือศูนย์ปฏิบัติการเพื่อเป็นองค์ประกอบปฏิบัติ การภายใต้ กอฉ. ให้มีอำนาจในการแก้ไขปราบปรามยับยั้งสถานการณ์ฉุกเฉิน ตาม ที่ได้รับมอบหมาย

3.ดำเนินการทางด้านการข่าว

4.ดำเนินการประชาสัมพันธ์ เผยแพร่ข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้องตามความ เป็นจริง เพื่อทำความเข้าใจอันดีระหว่างรัฐบาลและประชาชนทุกภาคส่วน รวมทั้ง ปฏิบัติการด้านจิตวิทยาที่เกี่ยวข้อง สำหรับการดำเนินการข่าวกรองนั้น

ให้ดำเนินการด้านการข่าวและต่อต้านข่าวกรองที่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์ฉุกเฉิน และที่เป็นภัยต่อความมั่นคงของรัฐหรือการปกครองตามระบอบประชาธิปไตยอันมีพระ มหากษัตริย์เป็นประมุข

5.จัดกำลังตำรวจและทหารดำเนินงานตามแผนรักษาความปลอดภัยบุคคลสำคัญ และสถานที่สำคัญต่างๆ รวมทั้งประสานส่วนราชการ หน่วยงานของรัฐ ซึ่งเป็นเจ้า ของสถานที่ดำเนินการป้องกันตัวเองตามความสามารถ

6.มอบหมายให้ส่วนราชการหรือหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องสนับสนุน กำลังพล งบประมาณ วัสดุ ครุภัณฑ์ ยานพาหนะ และเครื่องมือต่างๆ เพื่อดำเนิน การแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน

7.เรียกให้ส่วนราชการหรือหน่วยงานของรัฐ ข้าราชการ เจ้าหน้าที่รัฐ เข้าประชุมชี้แจงให้ข้อมูลข่าวสารตามที่เห็นสมควร

8.แต่งตั้งคณะที่ปรึกษาหรือเจ้าหน้าที่เพื่อดำเนินการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินตามความจำเป็น

9.ดำเนินการอื่นๆ ตามที่นายกรัฐมนตรี หรือ ครม.มอบหมาย

ประกาศฉบับที่สอง เป็นการกำหนดอำนาจหน้าที่ของ ครม.ตาม กฎหมาย เป็นอำนาจหน้าที่ของนายกรัฐมนตรี ภายหลังมีการประกาศสถานการณ์ฉุก เฉินในเขตท้องที่กรุงเทพมหานคร

โดยประกาศฉบับนี้ให้รัฐมนตรีและครม.มอบอำนาจรัฐมนตรีว่าการ กระทรวง โอนมาเป็นอำนาจหน้าที่ของนายกรัฐมนตรีในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการอนุ ญาต อนุมัติ

สั่งการบังคับบัญชา หรือแก้ไข ป้องกัน ปราบปราม ระงับยับยั้ง สถานการณ์ฉุกเฉิน หรือช่วยเหลือประชาชนที่อยู่ในท้องที่ที่ประกาศภาวะฉุก เฉิน โดยจะมีกฎหมาย 20 ฉบับประกอบด้วย

1.พระราชบัญญัติจัดระเบียบข้าราชการกระทรวงกลาโหม พ.ศ.2551 2.พระ ราชบัญญัติการทะเบียนคนต่างด้าว พ.ศ.2493 3.พระราชบัญญัติการสอบสวนคดี พิเศษ พ.ศ.2547 4.พระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ.2522 5.พระราชบัญญัติควบคุม โภคภัณฑ์ พ.ศ.2495 6.พระราชบัญญัติควบคุมยุทธภัณฑ์

พ.ศ.2520 7.พระราช บัญญัติป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน พ.ศ.2522 8.พระราชบัญญัติควบคุมอาหาร พ. ศ.2522 9.พระราชบัญญัติควบคุมการโฆษณาโดยใช้เครื่องขยายเสียง พ.ศ.2493 10. พระราชบัญญัติรักษาความสะอาดและรักษาความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้าน เมือง พ.ศ.2535

11.พระราชบัญญัติการจราจรทางบก พ.ศ.2522 12.พระราชบัญญัติการ สุรา พ.ศ.2493 13.พระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ.2522 14.พระราชบัญญัติวัตถุ อันตราย พ.ศ.2535 15.พระราชบัญญัติวัฒนธรรมแห่งชาติ พ.ศ.2485 16.พระราช บัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธ ปืน พ.ศ.2490

17.พระราชบัญญัติการเนรเทศ พ.ศ.2499 18.ประมวลกฎหมายแพ่งและ พาณิชย์ เฉพาะบทบัญญัติที่เกี่ยวกับมูลนิธิและสมาคม 19.ประมวลกฎหมายวิธี พิจารณาความอาญา เฉพาะบทบัญญัติที่เกี่ยวกับการใช้อำนาจสืบสวนและสอบสวน และ การใช้อำนาจของพนักงานฝ่ายปกครองหรือตำรวจ 20.ข้อบังคับกระทรวงกลาโหมว่า ด้วยการใช้กำลังทหาร การเคลื่อนกำลังทหารและการเตรียมพร้อม พ.ศ.2545

ประกาศ ณ วันที่ 4 กันยายน 2551

นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ลงนาม

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ทราบข่าวนี้กันหรือยังจ้ะ............

หลังจากที่มีกระแสข่าวว่า พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก และในฐานะหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน ตาม พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548

จะแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนในเวลา 10.00 น.ที่หอประชุมกิตติขจร เพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการใช้ พ.ร.ก.ฉบับดังกล่าว หลังจากที่มีนักวิชาการ และประชาชน ต่อต้านการออกใช้ พ.ร.ก.ฉบับนี้ เนื่องจากเห็นว่าสถานการณ์บ้านเมืองยังไม่ถึงขั้นที่จะต้องนำ พ.ร.ก.ฉุกเฉินมาใช้ในช่วงระยะเวลาดังกล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่มีกระแสข่าวแพร่สะพัดออกไปทำให้บรรดาสื่อมวลชนทั้งสื่อโทรทัศน์ วิทยุ และหนังสือพิมพ์ ทั้งไทย และต่างประเทศ เดินทางเข้ามายังกองทัพบกเป็นจำนวนมาก แต่ถึงเวลาก็ยังไม่มีทีท่าว่า พล.อ.อนุพงษ์ จะมาแถลงข่าวตามที่มีกระแสข่าวแพร่สะพัดออกไป

จนกระทั่งผู้สื่อข่าวได้โทรศัพท์สอบถามไปยังเจ้าหน้าที่ ก็ได้รับการปฏิเสธว่าไม่มีกำหนดการในการแถลงข่าววันนี้แต่ใด แต่อาจจะมีการแถลงข่าวเป็นการแจกเอกสารข่าวของกองทัพบกแทนในวันนี้

ทั้งนี้มีรายงานข่าวว่า พล.อ.อนุพงษ์ ได้เดินทางเข้ากองทัพบก ในเวลา 10.15 น. โดยก่อนที่ พล.อ.อนุพงษ์ จะเดินทางเข้ามายังกองทัพบก มีรายงานว่า นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี และรมว. กลาโหม ได้เดินทางเข้าไปพบ พล.อ.อนุพงษ์ ที่บ้านพักรับรองในกรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์

เพื่อพูดคุยสถานการณ์บ้านเมือง รวมทั้งข่าวความไม่เข้าใจกัน หลังจาก นายสมัคร ได้เดินทางออกมาจากกรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์ ในเวลา 09.30 น. หลังจากนั้นมีรายงานว่า นายสมัคร ได้เดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวเข้าไปทำงานที่สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหมแจ้งวัฒนะ

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ในสถานการณ์เช่นนี้ย่อมมีบุคคลที่ไม่หวังดีมาก่อกวนเสมอ เพื่อให้ฝ่ายตรงข้ามเดือดร้อนจากเหตุการณ์ทีเกิดขึ้น ฉะนั้นทุกฝ่ายต้องใช้ความระมัดระวังและงดใช้ความรุนแรงเพื่อความสงบของประเทศ

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

เมื่อคนหมู่มากมารวมตัวกัน ย่อมอาจเกิดเรื่องไม่สงบขึ้นได้ เนื่องจาก แต่ละฝ่ายก็ย่อม มีความต้องการที่แตกต่างกันออกไป และแต่ละฝ่ายนั้นย่อมทำทุกวิธี ที่จะได้มาซึ่งสิ่งที่ตนต้องการ เหตุนี้ จึงเกิดเหตุการณ์ซึ่งทำให้มีผู้คนบาทเจ็บขึ้น

หากทุกฝ่ายนั้น กระทำตาม สิทธิ และ ไม่รุกร้ำเสรีภาพของ ผู้อื่น ย่อม ไม่อาจเกิด เหตุการณ์เช่นนี้ได้

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

การเกิดการชมนุมอย่างนี้มันต้องมีอีกแน่การใช้กำลัง
มือที่สามที่แท้อาจจะไม่ใช่คนอื่นไกลที่ไหรหรอก
มันก็เป็นคนที่ได้ผลประโยชน์นั้นแหละ
และใครกันล่ะลองคิดดูเองแล้วกันการที่ฝ่าย นปช
โดนอย่างนี้ไม่เห็นจะมีใครออกมาร้องขอความเป็น
ธรรมกันบ้างเลยหากฝ่ายพันมิตรโดนบ้างล่ะ
ตอนนี้เรื่องก็คงยังไม่จบง่ายๆๆหรอก
การที่มีการชุมนุมมันก็ย่อมมีปัญหาตามมามากมาย
และคนอื่นก็ยังต้องมาเดือนร้อน
หากอยากเห็นประเทศชาติสงบ
ทำไมไม่บ่อยให้เป็นหน้าที่ของกฎหมายล่ะ
หรือท่านคิดว่ากฎหมายบ้านเมืองนี้ไม่มีประสิทธิภาพ
พอที่จะจัดการคนเลวไปได้

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

มันบ้ารึเปล่า

ทำไมต้องทำเรื่องแบบนี้ด้วย

แลวเรื่องทั้งหมดมัน

จะจบมั้ยเนี่ย