น้ำมันลดฮวบเชลล์ยังกั๊ก บางจากเล็งปรับลงอีก80ตังค์
หนังสือพิมพ์สยามรัฐ หน้าหนึ่ง
น้ำมันตลาดโลกดิ่งไม่หยุด ปิดที่ระดับ 12.326 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ลดลงอีก 2.23 เหรียญ "บางจาก" ตีปี๊ป สัปดาห์หน้าลดอีกลิตรละ 80 สตางค์ ขณะที่ บริษัทเชลล์ยักกั๊ก นักวิเคราะห์ตลาดโลกมั่นใจ น้ำมันสัปดาห์นี้ลดลงต่ออีก เหตุจากซาอุฯ เพิ่มกำลังการผลิตและน้ำมันสำรองสหรัฐฯ เพิ่มมากขึ้น
เครดิต http://www.ryt9.com/tag/%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B3%E0%B8%A1%E0%B8%B1%E0%B8%99/
10 ความคิดเห็น:
ถ้าเราร่วมมือร่วมใจกันใช้พลังงานทดแทน ราคาน้ำมันก็จะลงเรื่อยๆครับ เพราะอุปสงค์น้อย อุปทานย่อมน้อยตามไปด้วย ราคาเลยลดน้อยลง ช่วยกันใช้แค่พอดี อย่าเติมตุนไว้ ไม่อย่างนั้น ราคาจะขึ้นเรื่อยๆครับ
ประเทศไทยใช้พลังงานคิดเป็นมูลค่าราว 1 ใน 5 ของผลิตภัณฑ์มวลรวม และสั่งเข้าน้ำมันเป็นมูลค่าปีละ 5 - 6 แสนล้านบาท สูงกว่าที่เราส่งข้าวไปขายต่างประเทศราว 7 - 8 เท่า น้ำมันกลายเป็นสินค้าหลักที่ทำให้เศรษฐกิจไทยขาดดุลการค้าและเป็นหนี้สูง ประเทศไทยใช้น้ำมันเพื่อการบริโภคส่วนตัว (เช่น รถส่วนตัว ไฟฟ้าสำหรับความบันเทิง) มากกว่าที่จะใช้เพื่อการผลิตอย่างมีประสิทธิภาพ ดังจะเห็นได้จากการที่คนไทยใช้น้ำมันเพิ่มขึ้นในอัตรา 1.4 เท่าของอัตราเพิ่มของผลิตภัณฑ์มวลรวมของประเทศ ซึ่งสูงกว่าประเทศพัฒนาอุตสาหกรรมที่ใช้น้ำมันเพิ่มต่ำกว่า 1 เท่าของ GDP
ชนชั้นนำของไทยยังไม่ได้ตระหนักถึงปัญหานี้อย่างเป็นระบบองค์รวม พวกเขาออกมาตรการประหยัดน้ำมันแบบเกรงใจภาคธุรกิจเอกชนและคนชั้นกลางมากไป กระทรวงพลังงานมองว่าการส่งเสริมให้รถยนต์ใช้ก๊าซและไบโอดีเซล/ก๊าซโซฮอลล์แทนน้ำมันจะลดการใช้น้ำมันได้สัก 20% ภายใน 4 ปี ทั้ง ๆ ที่ก๊าซก็จะหมดจากเมืองไทยและหมดทั้งโลก รวมทั้งจะแพงขึ้นเช่นกัน ส่วนไบโอดีเซลและก๊าซโซฮอลล์ก็ต้องพึ่งการเกษตรสมัยใหม่ซึ่งต้องพึ่งน้ำมัน ในขณะที่รัฐบาลในยุคทักษิณใช้เงินรัฐสนับสนุนราคาน้ำมันและก๊าซในช่วงปี 2547 ขาดทุนไปกว่า 8 หมื่นล้านบาท และทุกวันนี้รัฐบาลยังเก็บภาษีน้ำมันสูงเพื่อชดเชยการขาดทุนของกองทุนน้ำมัน รัฐบาลทุกรัฐบาลส่งเสริมการเติบโตของรถยนต์และการสร้างทางด่วนและถนน มากกว่าที่จะสนใจพัฒนาการขนส่งสาธารณะ การขนส่งสินค้าทางรถไฟและทางเรือซึ่งใช้พลังงานน้อยกว่าการขนส่งโดยใช้รถบรรทุก รวมทั้งไม่มีมาตรการประหยัดพลังงานและใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพอย่างจริงจัง
นี่คือปัญหาวิกฤติที่จะมีผลกระทบรุนแรงต่อคนทั้งประเทศอย่างรุนแรง ควรมีการระดมนักวิชาการเพื่อศึกษาปัญหานี้ในเชิงโครงสร้างอย่างเป็นระบบองค์รวม เพิ่มทุนวิจัยและพัฒนาพลังงานทางเลือก ปรับเปลี่ยนการวางผังเมืองใหม่ ปฏิรูประบบภาษีอากร กฎหมาย นโยบายพัฒนาเศรษฐกิจแบบใหม่ ที่มุ่งลดการใช้พลังงานจากฟอสซิล (น้ำมัน ก๊าซ ถ่านหิน) อย่างจริงจัง
อย่ามัวแต่ทะเลาะกัน อย่ามัวแต่แก่งแย่งแข่งขันแบบตัวใครตัวมันกัน อย่ามัวแต่คิดเรื่องเล็ก ๆ ในชีวิตประจำวัน มหันตภัยกำลังจะมาภายใน 10 ปีนี้ คนมีปัญญา คนที่คิดการณ์ไกล คิดถึงปัญหาส่วนรวม ต้องเริ่มต้นศึกษาและหาทางป้องกันหาทางแก้ไขตั้งแต่ตอนนี้ ก่อนที่ประเทศไทยจะเกิดภัยพิบัติร้ายแรง และคนที่รอดชีวิตส่วนน้อยจะต้องกลับไปใช้ชีวิตแบบบุพกาลเหมือนในยุคก่อนโลกมีน้ำมันใช้ในเชิงอุตสาหกรรม
บางจากจะลด อีก 80สตาง
เป็นข่าวดีสำหรับเราลุกแม่ฟ้าเลยเนอะครับ
เพราะปั้มบางจากอยุ่ตรงหน้า ม พอดีเลย
ลดอีกๆๆๆๆ
ลดมากเท่าไหร่ยิ่งดี
อะไรต่อมิอะไรจะได้ถูกๆลงซะที
ตอนนี้เริ่มไม่มีจะกินแล้ว
ไม่ต้องโทษใครเลยครับ พวกใครก็ไม่ต้องมาเข้าข้างกัน จะอธิบายให้...........
ตอนนี้โลกประสบภาวะขาดแคลนน้ำมันเต็มที่แล้วครับ หลาย ๆ ประเทศที่ผลิตน้ำมันใช้เองได้ เริ่มเตือนประชาชนในประเทศกันแล้ว ว่าน้ำมันในประเทศกำลังจะหมด ส่งผลให้สวัสดิการต่าง ๆ ที่เคยให้ประชาชน ต่อไปก็อาจจะต้องยกเลิก
ส่วนประเทศที่ผลิตน้ำมันไม่ได้ (ยกตัวอย่างง่าย ๆ ภูมิภาคเราเลยครับ SEA นี่แหละ) ตอนนี้อัตราเงินเฟ้อสูงขึ้นกันถ้วนหน้า ประเทศเรายังถือว่าน้อยนะครับ 7-8% ประเทศใกล้เคียงเลย 10% กันไปหมดแล้ว เพราะว่าน้ำมันเป็นปัจจัยหลักที่ใช้ในการขนส่งครับ จะขนส่งมวลชน ส่งข้าว ส่งน้ำ ส่งสินค้าอะไรก็ตาม ใช้น้ำมันทั้งนั้น จึงทำให้ต้นทุนสินค้าต่อหน่วยสูงขึ้น ราคาสินค้าก็ต้องขึ้นตามไปด้วย
ทีนี้ถามว่า... แล้วประเทศไทยทำไมราคาน้ำมันแพงกว่าประเทศอื่นที่ไม่ได้ผลิตน้ำมัน ? คำตอบมันอยู่ที่ภาษีสรรพสามิตครับ อัตราภาษีตัวนี้ค่อนข้างสูง ซึ่งก็เป็นมานานแล้ว ไม่ต้องโทษรัฐบาล โทษ ปตท. หรือโทษอะไรเลย เพราะมันไม่ได้เพิ่งเกิดจากวันนี้ เมื่อวานนี้ แต่มันเป็นแบบนี้มานมนานแล้ว
ทางแก้เรื่องราคาน้ำมันก็มีง่าย ๆ นะครับ ลดภาษี
เหล้า เบียร์ ขวดละเท่าไหร่
ยังกินกันได้ ปรับเปลี่ยนชีวิตสิ
เที่ยวคืนนึงก้อ พันกว่าบาทแล้ว
ลด ละ เลิก และ พอเพียงก้ออยู่ได้แล้ว
จริงอยู่ที่น้ำมันต่างประเทศเค้าแพงกว่าเรา ทั้ง อเมริกา ทั้งยุโรป แต่อย่าลืมว่าเงินเดือนเค้าสูงกว่าเรานะ มันเปรียบเทียบกันไม่ได้ ที่ฝรั่งเศส น้ำมันเค้าคิดเป็นเงินไทยลิตรละ 200 แต่เงินเดือนเค้าเดือนละสองแสนนะ
ที่สวีเดน น้ำมันลิตรละ 13-14 โครน หรือประมาณ 65-75 บาทไทย แต่คนสวีเดนเงินเดือนแบบพนักงานออฟฟิศธรรมดาก็ประมาณ 15,000-30,000 โครนอ่ะ หรือประมาณ 75,000-150,000 บาทไทย เราจำได้ว่าปี 2006 ราคาน้ำมันอยู่ที่ลิตรละ 10-11 โครน เองอ่ะ ขึ้นราคาน้อยกว่าบ้านเราอีก อีกอย่างคนที่นั่นได้เงินเดือนสูง รัฐบาลก็มีเงินช่วยเหลือต่างๆ ให้มากมาย เขาก็อยู่กันได้นะ แต่ถึงอย่างนั้นเราก็เห็นเขาจริงจังเรื่องการประหยัดพลังงาน เช่นการแยกขยะก่อนทิ้ง เปิดไฟเฉพาะที่จำเป็น ในขณะที่บ้านเราเงินเดือนน้อย ค่าครองชีพสูง ตอนนี้ก็คงต้องประหยัดกันมากขึ้น ซึ่งเราก็ไม่รู้นะว่าต้องประหยัดกันแค่ไหน เพราะเราคงหวังพึ่งใครไม่ได้ นอกจากต้องพึ่งตัวเองกันแล้วล่ะ
กินน้ำมันเป็นอาหารท่าจะดี
โอย จากลิตรละ 10 กว่าบาท
ปัจจุบันจะ 50 อยู่แล้ว
แสดงความคิดเห็น