วันนี้ (11 ก.ย.) นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ รักษาการนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ ส.ส.พรรคพลังประชาชน มีมติเสนอให้นายสมัคร สุนทรเวช กลับมาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง ว่า ตนไม่ได้เข้าร่วมประชุมด้วย เพราะต้องเดินทางไปทำงานที่ จ.เชียงใหม่ แต่เท่าที่ทราบขณะนี้ ผลการประชุมยังไม่แล้วเสร็จ แต่จะเสร็จสิ้นภายในวันนี้ โดยมอบหมายให้ นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี เลขาธิการพรรคพลังประชาชน นำผลการประชุมของพรรคไปแจ้งแก่พรรคร่วมรัฐบาลอีก 5 พรรค เพื่อนำไปหารือและประชุมกันภายในพรรคอีกครั้งหนึ่ง
ส่วนกรณีที่เกรงกันว่าหากเสนอชื่อ นายสมัคร เป็นนายกรัฐมนตรี อาจมีเสียงคัดค้านจากกลุ่มพันธมิตรฯ และทางพรรคจะมีการเสนอชื่อนายกรัฐมนตรีสำรองหรือไม่นั้น นายสมชาย กล่าวว่า การพิจารณาเลือกนายกรัฐมนตรี คงจะสำรองไม่ได้ หากลงมติเสนอคนใดก็ต้องเป็นคนนั้น แต่ยืนยันว่าคนที่ถูกเลือกเป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่นั้น จะต้องเป็นคนที่สามารถลดความขัดแย้งได้อย่างแน่นอน
วันเดียวกัน น.ส.รสนา โตสิตระกูล ส.ว.กทม. ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการตรวจสอบการทุจริตและเสริมสร้างธรรมาภิบาล พร้อมด้วยนายประสาร มฤคพิทักษ์ ส.ว.สรรหา น.ส.สุมล สุตะวิริยะกุล ส.ว.เพชรบุรี นายสาย กังกเวคิน ส.ว.ระยอง ร่วมแถลงข่าวเสนอคุณสมบัติ 7 ประการ ของผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งเป็นนายกรัฐมนตรี คือ 1. ต้องมีความอดทน ตั้งใจในการแก้ไขปัญหาของประเทศ โดยยึดหลักสันติวิธี 2. มีจิตสำนึก ซื่อสัตย์ และบริหารงานอย่างมีธรรมาภิบาล ประชาชนสามารถตรวจสอบได้ 3. จะต้องเป็นผู้ที่ทำประชาชนเกิดความไว้วางใจ และมีเสถียรภาพ 4. ไม่เป็นผู้สร้างเงื่อนไขในการแบ่งฝักแบ่งฝ่าย จนนำไปสู่ความแตกแยก
5. จะต้องมาจากระบบรัฐสภา 6.มีวิสัยทัศน์ในการปฏิรูปการเมือง ใจกว้าง และพร้อมรับฟังความคิดเห็น และ 7. เปิดโอกาสให้ประชาชน สื่อมวลชน และองค์กรต่างๆ สามารถแสดงความคิดเห็นทางการเมืองได้โดยไม่ถูกครอบงำ ทั้งนี้ ขอให้ทางสภาผู้แทนราษฎรหยิบยกข้อเสนอทั้ง 7 ประการเข้าสู่การพิจารณา เพื่อให้เกิดการปฏิรูปการเมือง ซึ่งจะทำให้เกิดประโยชน์ต่อประชาชนและประเทศชาติ
น.ส.รสนา กล่าวถึงมติของพรรคพลังประชาชนยังคงยืนยันส่งนายสมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรคพลังประชาชนขึ้นดำรงตำแหน่งนายกฯ อีกครั้ง ว่า สาเหตุที่ทางกรรมาธิการเสนอแนะคุณสมบัติ เพราะต้องการเตือนสติให้สภาฯ ได้คำนึงถึงสภาวการณ์ที่ไม่ปกติในขณะนี้ รวมทั้งสภานิติบัญญัติต้องช่วยกันแก้ปัญหาและตั้งสติในเรื่องนี้
เมื่อถามว่า ส.ว.เห็นด้วยกับแนวคิดจัดตั้งรัฐบาลแห่งชาติหรือไม่ น.ส.รสนา กล่าวว่า ขณะนี้ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องจัดตั้งรัฐบาลแห่งชาติ ประเทศจำเป็นต้องมีฝ่ายตรวจสอบ จึงเห็นว่าควรยึดแนวทางตามระบอบรัฐสภาเหมือนเดิม
เครดิต : http://www.thairath.co.th/online.php?section=newsthairathonline&content=103832
จัดทำโดย
น.ส.ผาณิตตา ศรีวงษ์ 5131601126 น.ส.อมรรัตน์ จิรนนท์วงศ์ 5131601208
นายอนุชา พวงมณี 5131601205 น.ส.เสาวรส รักแก้ว 5131202087
น.ส.รจนา วงษารัตน์ 4931601817 นายเจษฎา เอื้อเฟื้อ 5131601027
น.ส.จุรีย์พร จันทร์แก้ว 5131601025 นายชัชชัย รักสันติสุข 5131601038
นายนเรศ วงศ์ชัยพาณิชย์ 5131601097 น.ส.จุรีรัตน์ อูปซาง 5131205227
น.ส.สุปราณี สุริยะจันทร์ 5131601201
10 ความคิดเห็น:
จะให้เขาคนนั้นกลับเข้ามาอีกทำไมคะ
ก็ในเมื่อมติศาล รัฐธรรมนูญ เก้า ต่อ ศูนย์
ชี้ขาดขนาดนั้น
เห็นด้วยกับความคิดเห็นข้างบนนะ
นายก คนใหม่ (ที่ไม่ใช่คนเดิม)
เป็นใครก็ไม่สำคัญ เท่ากับ
นายกที่ทำเพื่อประเทศจริง ๆ
Thitikan Chinpirasatian
513-1601-050
sec.1
คุณสมบัตินายกทั้ง 7 ประการนั้นหากมีบุคคลที่มาจากระบบรัฐสภาแล้วมีคุณสมบัติครบตามที่ประกาศนั้น แต่ยังไม่เป็นที่พึงพอใจของประชาชนบางกลุ่มแล้ว จะใช้กฎ อันใดในการเลือก นายกๆ อีกเล่า หากแต่ว่ามีการทำประชาพิจารณ์ก็จะเสียงบประมาณแผ่นดินถึง 200 ล้านบาท+ หรือ ยุบสภาแล้วมีการเลือกตั้งใหม่
ก็จะทำให้เสียงบประมาณแผ่นดินมากถึง 2,000ล้านบาท+ และหากเลือกตั้งใหม่แล้ว ยังได้ นายกๆ คนเดิมนั้น ประชาชนบางกลุ่มที่ไม่พอใจในรัฐบาลชุดนั้นก็จะมาชุมนุมประท้วงกันอีก แล้ว เมื่อไหร่ถึงจะ เจอหนทางที่จะแก้ไขปัญหานี้ได้
เกมส์ชิงอำนาจป็นธรรมดาของนักการเมือง แต่ยังไงก็ให้ได้มาแบบสุภาพบุรุษ ประชาธิปไตยขั้นแรกต้องเคารพเสียงข้างมาก อภิสิทธิ์อนาคตยังอีกไกลแต่เกรงว่าการมี สส.ใต้กำกับอย่างนี้ภาพนักการเมืองรุ่นใหม่อาจมัวหมองได้ ควรมีจุดยืนของตนบ้างอย่าให้เป็นหุ่นเชิดเอาภาพของนายอภิสิทธิ์ไปขายเกาะนายอภิสิทธิ์เข้าไปมีอำนาจบริหารประเทศ ลำพัง สส.ใต้ไม่มีทางไปถึงฝันพวกเขารู้ดีไม่เช่นนั้นนายอภิสิทธิ์หลุดจากหัวหน้าพรรคตั้งแต่แพ้เลือกตั้งแล้ว หากเอา สส.ใต้มาเป็นหัวหน้าพรรคก็จบเลือกตั้งครั้งหน้าคงได้แต่ สส.ใต้ไม่กี่คนแน่นอนครับ เพราะฉะนั้นนายอภิสิทธิ์ยังจะต้องเป็นหัวหน้าพรรคอีกนานแน่นอน
พระราชดำรัสของในหลวงของเรา
ท่านกล่าวเพื่อเตือนสติคนไทยไว้ว่า *********************************** ประเทศของเรา ไม่ใช่ประเทศของหนึ่งคนสองคน เป็นประเทศของทุกคน"เข้าหากัน ไม่เผชิญหน้ากัน แก้ไขปัญหา เพราะปัญหามีอยู่ "ที่เวลาเกิดจะใช้คำว่าบ้าเลือด เวลาคนมีการปฏิบัติรุนแรงมันลืมตัว ลงท้ายเขาไม่รู้ว่าตีกันเพราะอะไร แล้วก็จะแก้ปัญหาอะไร เพียงแต่ว่าจะต้องเอาชนะ แล้วก็ใครจะชนะ ไม่มีทาง อันตรายทั้งนั้น "มีแต่แพ้ คือต่างคนต่างแพ้ ผู้ที่เผชิญหน้าก็แพ้ แล้วที่แพ้ที่สุดก็คือประเทศชาติ ประชาชน...
"แล้วก็จะมีประโยชน์อะไรที่จะทะนงตัวว่าชนะ
เวลาอยู่บนกองซากปรักหักพัง..." ********************************************************************** อยากให้คนที่เป็นคนไทยและรักในหลวงอ่านและคิดตาม ว่าสิ่งที่ทำทุกวันนี้มันถูกต้องหรือเปล่า
ผมเคยอ่านเจอ เรื่องโหรทำนายว่าจะมี รัฐบาลแห่งชาติเกิดขึ้น( หลักฐานไม่มีพิมมากไม่ได้ ) อยากรุจัง โหร เก่งจริง หรือรุข่าววงในกันแน่ ดีไม่ดี อาจจะมีวิธีจบแล้วก็เป็นได้ แต่เลี้ยงไข้ เท่านั้นเอง
คุณสมบัติที่เค้าว่านี้ตัวเต็งที่จะมาเป็นนายกเค้ามีกันบ้างมั้ย
โดยเฉพาะข้อ มีจิตสำนึก ซื่อสัตย์ และบริหารงานอย่างมีธรรมาภิบาล ประชาชนสามารถตรวจสอบได้
มีนะครับแต่ว่าจามีใครกล้ามาทำงานตำแหน่งนี้
5131601061
politicsspecial.blogspot.com
ใครก็ได้ครับ แต่ขอให้ทำเพื่อประเทศชาติจริงๆ คุณธรรมน่ะรู้จักกันบ้างไหมครับ!
ขอให้เขาเป็นคนดีก็พอแล้ว...
ไม่โกงกินประเทศน่ะค๊ะ...
Jiraporn Janrit
5131601021 Sec: 1
การที่นายกฯคนใหม่จะเป็นใครคงไม่สำคัญเท่ากับการที่นายกฯคนใหม่นั้นจะมาดูแล รักษา พัฒนาประเทศหรอก เมื่อไหร่ที่เราได้นายกที่ชื่นชอบถูกใจมาแต่เขากลับไม่มาพัฒนาประเทศเลย แล้วอย่างนี้จะทำให้ประเทศไทยเราอยู่รอดได้อย่างไร เราทุกคนต้องช่วยกันหาคนดี ไม่ใช่หาคนที่เราชื่นชอบเพียงอย่างเดียว
ขอให้ท่านนายก ฯ คนใหม่ ใช้สถานที่ดอนเมือง ทำงาน บริหารบ้านเมือง ดีที่สุดแล้ว กรุณาอย่าไปใช้ที่ทำเนียบเดิมใช้บริหารบ้านเมืองเลย ปล่อยให้เป็นอนุเสาวรีย์ของคนชั่ว ที่มันทำลายระบอบประชาธิปไตย และก็ปั่นหุ่นของ 9 แกนนำ ไว้ด้วย ให้เป็นประวัติศาสตร์ ลูกหลานรุ่นหลังจะได้รู้ว่า นี่คือพวกที่ทำลายระบอบประชาธิปไตยของคนไทย มันเอาสถานที่ราชการ ก่อม็อบ มั่วสุม มั่วเส์ มันไม่เคารพสถานที่ไว้คอยต้อนรับแขกบ้านแขกเมือง ปล่อยให้เป็นเสาวรีย์ของโจรปล้นทำเนียบก็แล้วกัน
แสดงความคิดเห็น